ทำไมต้องให้ลูกเรียนเขียนโปรแกรม ? เป็นคำถามข้อใหญ่ที่พ่อและแม่ มักจะตั้งคำถามนี้ขึ้นมาเสมอ
ทำไมต้องให้ลูกเรียนเขียนโปรแกรม ? พ่อแม่ที่เติบโตมาในยุค 90s เป็นวัยรุ่นกลุ่มสุดท้ายที่ทันยุคอนาล็อก ทักษะที่จำเป็นสำหรับคนรุ่นพ่อแม่ จะไม่เพียงพอสำหรับคนรุ่นใหม่ที่เติบโตมาในยุคดิจิตัลอีกต่อไป และหนึ่งในทักษะสำคัญที่เทียบเท่าการอ่านออกเขียนได้ของคนรุ่นเก่า คือทักษะในการเขียนโปรแกรม(coding literacy) ดังนั้นเอง ไม่ว่าลูกจะอยากเป็นโปรแกรมเมอร์หรือไม่ เด็กทุกคนจำเป็นต้องเรียนรู้ทักษะแห่งอนาคตนี้ตั้งแต่ยังเล็ก ด้วยเหตุผลสำคัญต่อไปนี้
ทักษะในการแก้ไขปัญหาและการคิดเชิงตรรกะ
การเขียนโค้ดช่วยสอนให้เด็กแก้ปัญหา ในเรื่องของการหาข้อบกพร่อง(debugging) หรือแก้ข้อผิดพลาดต่างๆ ในการเขียนโปรแกรม ซึ่งจำเป็นต้องวิเคราะห์ปัญหาในหลากหลายรูปแบบ ทักษะที่เกิดขึ้นจากการแก้ปัญหาด้านไอทีเหล่านี้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาต่างๆ อย่างสร้างสรรค์ ซึ่งอาจเป็นอาชีพใดก็ตามที่ไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่แค่สายงานคอมพิวเตอร์ โดยที่ยังได้ใช้ทักษะการแก้ปัญหา การคิดวิเคราะห์ และการคิดเชิงตรรกะ ซึ่งเป็นทักษะที่เป็นประโยชน์ในระยะยาว
“ในโลกปัจจุบันที่ถูกควบคุมด้วยเทคโนโลยีอย่างสมบูรณ์”
ทุกวันนี้เราจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไงโดยไม่ใช้ซอฟท์แวร์ต่างๆ เราสื่อสารผ่านโทรศัพท์มือถือ พัฒนาโปรแกรมในการออกแบบที่อยู่อาศัย อาหาร และแทบทุกสิ่งทุกอย่าง ในชีวิตประจำวัน เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทหลักเช่นนี้ โลกจึงต้องการคนที่เข้าใจว่าระบบเหล่านี้ทำงานยังไง สำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้เด็กๆ คุ้นเคยและใช้งานอุปกรณ์เป็น
“สร้างโอกาส ในการสร้างเส้นทางอาชีพและมีงานที่ดี”
ราวปี 2563 ในอเมริกาจะมีความต้องการตำแหน่งงานด้านคอมพิวเตอร์ถึง 1 ล้านตำแหน่ง ในขณะที่่ยังไม่มีการเตรียมความพร้อมที่ดีพอในเรื่องนี้ นับแต่นี้เป็นต้นไป คนที่รู้เท่าทันและมีทักษะด้านคอมพิวเตอร์ จะมีโอกาสทำงานได้ในแทบทุกสายอาชีพ เพราะทุกสายงานต่างต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีทั้งนั้น
หากพ่อแม่ต้องการให้ลูกเป็นนักคิดและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับโลก การส่งเสริมให้ลูกเริ่มเรียนเขียนโปรแกรมเป็นตัวเลือกที่ชาญฉลาด เพื่อให้เขาเติบโตเป็นคนรุ่นใหม่ที่คิดเป็นและมีทักษะของคนในศตวรรษที่ 21 อย่างครบถ้วน
ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเรียนเขียนโค้ดที่ เฟซบุ๊ค สอนลูกเขียนโปรแกรม by Dek-D.COM
และติดตามบทความอื่นๆ ได้ที่ https://school.dek-d.com/blog