มีน้องๆ คนไหนที่สอบไม่ได้คณะตามที่ตั้งเป้าไว้และยังลังเลอยู่ว่าจะลองเรียนไปก่อนหรือจะตัดสินใจซิ่วเพื่อเตรียมสอบใหม่ดี? และหากน้องๆ ยังลังเลและยังไม่รู้ว่าจะวางแผนยังไงดี ลองไปฟังประสบการณ์จริงจากพี่แก้มรุ่นพี่ เด็กซิ่ว ได้เลย
ก่อนอื่นให้น้องแนะนำตัวก่อนค่ะ
สวัสดีค่ะชื่อนางสาวอโณมา โค้วเจริญทรัพย์ เรียกสั้นๆ ว่า แก้ม ก็ได้ค่ะ จบการศึกษาจากโรงเรียนจันทร์ประดิษฐารามวิทยาคม สอบติดคณะสังคมศาสตร์ สาขานิติศาสตร์ (โครงการพิเศษ) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ TCAS รอบที่ 3 แต่เลือกซิ่วและสอบใหม่ในปี 66 ปัจจุบันสอบติดคณะศิลปศาสตร์ เอกวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตค่ะ
ตัดสินใจซิ่วเพราะสอบติดคณะที่ไม่ตรงเป้าหมาย
สาเหตุที่ตัดสินใจซิ่วต้องเล่าย้อนไปก่อนเลยค่ะว่าคณะเป้าหมายของแก้มคือคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ด้วยผลคะแนนในตอนนั้นมันไม่ได้ออกมาตามที่เราหวังไว้ทั้งหมดก็เลยทำให้ต้องหันมาเลือกคณะสำรองลงมาคือ ศิลปศาสตร์ มธ. และนิติศาสตร์ มศว ซึ่งใจแก้มอยากเข้าศิลปศาสตร์ มธ. มากกว่าแต่ด้วยความที่แก้มไม่มีความมั่นใจในคะแนนของตัวเอง เลยตัดสินใจที่จะเลือกนิติศาสตร์ มศว แทน แล้วพอไปลองเช็คคะแนนย้อนหลังผลที่ออกมาก็คือคะแนนของแก้มสามารถติดคณะศิลปศาสตร์ มธ. ได้แต่ที่แก้มไม่ติดเพราะแก้มไม่กล้าที่จะยื่นไป มันเลยเป็นความรู้สึกที่ยังติดค้างอยู่ในใจแก้มว่าถ้าวันนั้นเรากล้าที่จะยื่นคะแนนเข้าไป เราก็จะไม่มานั่งรู้สึกผิดกับตัวเองในวันนี้ แก้มเลยตัดสินใจที่จะซิ่วเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเองค่ะ แก้มอยากจะบอกน้องๆ ว่าไม่ว่าผลคะแนนจะออกมาตามที่เราหวังหรือไม่ได้เป็นตามที่เราหวังก็ขอให้เชื่อมั่นในตัวเองและยึดมั่นในเป้าหมายของตัวเองค่ะ เพราะแค่เรากล้าที่จะยื่นก็เท่ากับว่าเรามีสิทธิ์ติดในคณะที่หวังไปครึ่งนึงแล้วค่ะ
แก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเอง ด้วยการตั้งเป้าหมายสอบเข้าเอกภาษาไทย
ในปี 2566 แก้มตั้งเป้าหมายว่าอยากสอบติดคณะศิลปศาสตร์ เอกวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ค่ะ เหตุผลที่อยากเข้าคณะนี้เพราะคณะนี้ตอบโจทย์กับความถนัดของตัวเองมากที่สุดค่ะ เพราะแก้มเป็นคนที่ชอบเรียนภาษาไทยมาตั้งแต่สมัยม.ต้นแล้ว และก็เคยเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องใช้ทักษะด้านภาษาไทย รวมถึงเคยติวข้อสอบให้เพื่อนๆ ด้วย แก้มเลยคิดว่าการเข้าเรียนในคณะนี้จะทำให้แก้มได้มีโอกาสฝึกฝนความสามารถและนำทักษะภาษาไทยของตัวเองไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้นค่ะ
วางแผนเตรียมสอบคณะเป้าหมายยังไงบ้าง?
คณะเป้าหมายของแก้มในปี 2566 ใช้คะแนน TGAT2 สังคม ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาบาลีค่ะ
TGAT2
แก้มใช้เวลาเตรียมตัว 2 อาทิตย์ก่อนสอบ (จริงๆ ถ้าใครมีเวลาเยอะกว่านี้ก็แนะนำให้เตรียมตัวตั้งแต่ต้นๆ นะคะ) โดยวิธีเตรียมตัวของแก้มคือแก้มจะพยายามดูและศึกษาทริคต่างๆ ที่จะช่วยให้เราสามารถทำข้อสอบได้เร็วและถูกต้อง และต้องฝึกทำข้อสอบพร้อมกับจับเวลาให้เกิดความคุ้นชินค่ะ เวลาสอบเราจะได้ไม่เกิดอาการลน
สังคม
วิชาสังคมแก้มเริ่มเตรียมตัวตั้งแต่ช่วงม.6 เทอม 2 ค่ะ เนื้อหาที่โรงเรียนแก้มสอนในตอนนั้นคือสาระกฎหมายกับประวัติศาสตร์สากล ซึ่งเป็นสาระที่แก้มชอบมากๆ แก้มก็เลยจะตั้งใจเรียนสองสาระนี้ให้เข้าใจตั้งแต่อยู่ในคาบเรียนแล้ว ส่วนสาระอื่นๆ ก็เก็บความรู้จากหนังสือที่อ่านรวมกับการเรียนพิเศษเอาค่ะ
ภาษาไทย
วิชานี้เป็นวิชาที่เน้นการอ่านจับใจความเป็นสำคัญเลยค่ะ วิธีการเตรียมตัวของแก้มคือแก้มจะฝึกทำโจทย์ให้เยอะๆ ค่ะ ทั้งโจทย์ในหนังสือแล้วก็โจทย์ในข้อสอบเก่าเลยมันจะช่วยให้เราจับแนวทางในการเลือกตอบได้ค่ะ
ภาษาอังกฤษ
เป็นวิชาที่แก้มค่อนข้างกังวลมากที่สุดเพราะแก้มมีพื้นฐานภาษาอังกฤษที่ค่อนข้างน้อย เพราะฉะนั้นพอขึ้นม.ปลายแล้วแก้มก็เลยลงเรียนปูพื้นฐานใหม่กับจนถึงวันก่อนสอบเลยค่ะ นอกเหนือจากเรียนพิเศษแก้มก็ใช้วิธีการท่องศัพท์แล้วก็การดูหนัง หรือรายการเป็นภาษาอังกฤษค่ะ วิธีนี้สำหรับแก้มคิดว่ามันโอเคมากๆ เพราะมันทำให้เรามีคลังคำศัพท์อยู่ในหัวค่ะ
ภาษาบาลี
เป็นวิชาที่ต้องจำเยอะมากกกกกกกกกกกก ถ้าไม่ฝึกการท่องจำเอาไว้คือแทบจะทำไม่ได้เลย และวิชานี้ก็เป็นวิชาที่ไม่มีสอนทั่วไปแก้มเลยเริ่มเรียนพิเศษปูพื้นฐานกับร์ตั้งแต่ช่วงขึ้นม.5 เลย อย่างที่บอกไปว่าภาษาบาลีเป็นวิชาที่ต้องท่องจำให้มากๆ แก้มเลยต้องฝึกท่องจำหลักไวยากรณ์กับคำศัพท์อยู่ตลอดจนถึงวันสอบ แล้วก็มีการฝึกแปลจากภาษาบาลีเป็นภาษาไทยด้วยเพื่อให้สามารถทำพาร์ท Reading ได้
ปรับรูปแบบการเตรียมสอบจากเดิมยังไงบ้าง
ข้อสอบปี 66 เปลี่ยนไปกังวลก็มีความกังวลบ้างค่ะ กลัวว่าขอบเขตของเนื้อหามันจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก แต่เท่าที่ดูจาก Blueprint แล้วก็คิดว่าการเตรียมตัวสอบในแบบที่แก้มทำอยู่น่าจะสามารถรับมือกับข้อสอบรูปแบบใหม่ได้ค่ะ ซึ่งการเตรียมสอบรอบนี้แก้มเอารูปแบบที่ตัวเองเคยใช้ในปีที่แล้วมาปรับค่ะ ส่วนไหนที่เคยทำได้ดีในรอบก่อนแก้มก็จะพยายามทบทวนเนื้อหาและฝึกทำโจทย์ให้แม่นยำมากกว่าเดิมค่ะ แต่ส่วนที่ผิดพลาดในรอบก่อนแก้มก็เอามาหาว่าตัวเองพลาดในจุดๆ ไหนไปแล้วควรจะแก้ไขอย่างไรให้มันดีขึ้น โดยการเตรียมสอบหลักๆ ของรอบนี้จะเป็นการทวนเนื้อหาเก่าๆ ที่เคยอ่านในรอบก่อนค่ะ แล้วก็พยายามหาเนื้อหามาอ่านเพิ่มเติมบวกกับพยายามทำโจทย์เก่าๆ ย้อนหลังแล้วก็โจทย์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำด้วยค่ะ
รีวิวข้อสอบ TGAT กับ TPAT ปี66
ในปีนี้แก้มได้ลงสอบในวิชา TGAT กับ TPAT5 ค่ะ ในส่วนของ TGAT แก้มรู้สึกว่าตัวข้อสอบไม่ได้ยากถ้าอ่านข้อสอบแบบละเอียดและทำได้ทันเวลาก็สามารถเก็บคะแนนได้แน่นอน แต่จุดที่ควรระวังก็คือด้วยจำนวนข้อที่ค่อนข้างเยอะจึงทำให้เรามีเวลาคิดคำตอบต่อข้อน้อย ถ้าบริหารจัดการเวลาในการทำไม่ดีก็อาจจะทำให้ทำข้อสอบไม่ทันได้ค่ะ ส่วน TPAT5 อันนี้เป็นวิชาที่แก้มลงสอบเผื่อเอาไว้ วิชานี้แก้มรู้สึกว่าแนวค่อนข้างเปลี่ยนไปจากปีก่อนๆ มาก คำถามจะออกแนวเชิงจิตวิทยาความเป็นครูเป็นส่วนใหญ่เลยค่ะ ถ้าได้ลองทำโจทย์ตาม Blueprint ก็มีส่วนช่วยให้ทำข้อสอบ TPAT5 ได้ค่ะ
วิชาสังคม เนื้อหาเยอะ ต้องเตรียมสอบเมื่อไหร่ บทไหนที่ควรเตรียมสอบ
จริงๆ จะบอกว่าสังคมเป็นวิชาที่แก้มเริ่มเก็บเนื้อหาตั้งแต่เริ่มขึ้นม.ปลายเลยก็ได้นะคะ แต่จะเป็นการเก็บเนื้อหาจากในคาบเรียนเพราะมันเป็นวิชาที่เราชอบเลยทำให้เวลาเรียนแก้มจะตั้งใจมากเป็นพิเศษ แต่ถ้าเป็นการเตรียมตัวเพื่อสอบเข้าเลยแก้มจะเริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน 2564 เลย การเตรียมตัวของแก้มคือแก้มจะเริ่มจากสาระที่ตัวเองชอบมากที่สุดก่อนเพื่อให้ตัวเองไม่รู้สึกเบื่อที่จะต้องอ่านทบทวนไปซะก่อน ซึ่งสาระที่แก้มชอบมากที่สุดคือ ประวัติศาสตร์ (ซึ่งหลายๆ คนบอกว่าเป็นพาร์ทที่ยาก เพราะเนื้อค่อนข้างเยอะและกว้าง) โดยแก้มจะพยายามเก็บเนื้อหาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยค่ะ แต่สำหรับคนที่มีเวลาไม่เยอะหรือไม่ได้ชอบประวัติศาสตร์มากก็ไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้นะคะเพราะจะเสียเวลาค่อนข้างมากเลยค่ะ แนะนำให้เก็บคะแนนในพาร์ทที่เนื้อหาค่อนข้างตายตัวอย่าง เศรษฐศาสตร์ ศาสนา หรือว่ากฎหมายไปเลยจะดีกว่าค่ะ (จริงๆ ถ้าเก็บทุกพาร์ทได้ก็ดีนะคะ555 แต่ถ้าไม่ทันแล้วก็เอาพาร์ทพวกนี้เป็นหลักก็ได้ เพราะขอบเขตของเนื้อหาไม่ได้กว้างมากจนเกินไป)
เทคนิคอ่านสังคมให้จำได้ต้องจำเป็นเรื่องราวแล้วมาจดสรุปในกระดาษ
เทคนิคที่แก้มใช้กับทุกสาระในวิชาสังคมคือแก้มจะใช้วิธีการจำเนื้อเป็นเรื่องราวในหัวก่อน แล้วค่อยเอามาเขียนสรุปใส่กระดาษอีกที (ย้ำว่าใส่กระดาษเพราะแก้มคิดว่ามันช่วยให้จำได้ดีกว่าจดใน Ipad) ซึ่งแก้มจะทำแบบนี้ทุกครั้งเวลาเรียนจบในแต่ละสาระเลยค่ะ และสำหรับแก้มวิธีการรับมือกับสังคมที่ดีที่สุดคือการอ่านเนื้อหา ไม่จำเป็นที่จะต้องอ่านให้หมดก็ได้เพราะเราไม่สามารถเดาได้ว่าคนออกจะเอาส่วนไหนมาออก แต่ให้อ่านเนื้อหาที่เป็นประเด็นหลักๆ ที่มักจะออกทุกปีให้แม่นยำดีกว่า ส่วนประเด็นย่อยๆ กับความความรู้รอบตัวค่อยมาอ่านเพิ่มเติมเอา พยายามเน้นพาร์ทที่ตายตัว หรือพาร์ทที่ถนัดเป็นหลักเอาไว้
ข้อสอบวิชาสังคมจะเน้นวิเคราะห์ และเรื่องราวรอบๆ ตัว
แก้มคิดว่าข้อสอบส่วนที่ยากของปีนี้คือข้อที่ต้องวิเคราะห์ค่ะ เช่น ข้อที่ยกเพลงของโรส สิรินทิพย์มา แล้วถามว่าตรงกับธรรมะข้อใด ข้อนี้เป็นข้อที่แก้มอ่านแล้วอึ้งไปพักนึงเลยค่ะ แก้มคิดว่าถ้าเราไม่วิเคราะห์ความหมายของเพลงออกมาให้ได้ตรงประเด็นจริงๆ มันก็ยากที่จะเลือกคำตอบให้ถูกนะคะ ส่วนข้อสอบอีกแบบที่แก้มว่ายากคือข้อสอบที่ถามความรู้รอบตัวอย่างข้อที่ถามเกี่ยวกับอาหรับสปริง หรือข้อใดไม่ใช่นโยบายของโจ ไบเดน ถ้าคนที่ไม่ได้ติดตามเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ก้มักจะตอบไม่ได้กัน แก้มเลยคิดว่าน้องๆ น่าจะลองฝึกทำข้อสอบที่ต้องวิเคราะห์ไว้ รวมถึงต้องหาเนื้อหาที่เป็นความรู้รอบตัวที่สำคัญในตอนนี้มาอ่านไว้ด้วยค่ะ
ข้อสอบวิชาสังคมแม้จะเปลี่ยนมาเป็น A-level แต่ยังเน้นวิเคราะห์โจทย์
ด้วยความที่มีการเปลี่ยนแปลงจากวิชาสามัญมาเป็น A-Level แก้มรู้สึกว่ารูปแบบของข้อสอบจะเน้นให้เราวิเคราะห์โจทย์มากกว่าเดิม สาระศาสนาจะมีการยกบทเพลงหรือสถานการณ์มาให้เราอ่านแล้ววิเคราะห์ว่ามันเกี่ยวข้องกับเรื่องใด อย่างที่เจอก็คือจะยกเพลงของโบกี้ไลออนมาท่อนนึงแล้วถามว่าตรงกับหลักธรรมอะไร หรือว่าเพลงตราบลมหายใจสุดท้ายของปาน ธนพร ตรงกับหลักบริหารจิตข้อใดประมาณนี้ค่ะ สาระหน้าที่พลเมือง เศรษฐศาสตร์ ภูมิศาสตร์ อันนี้แก้มว่าออกแนวเดิมกับที่เคยออกมาแล้ว ที่มีเปลี่ยนแปลงก็คงจะเป็นประวัติศาสตร์เจ้าเก่าเจ้าเดิมที่ขอบเขตเนื้อหาออกกว้างมากกก ปีนี้มีการยกเอาจตุรนวัตกรรมของจีนมาออก แล้วก็มีพูดถึงอาณาจักรโบราณในดินแดนไทย กับนโยบายของอดีตนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลด้วยค่ะ
ข้อสอบสังคมปี 66 ยากไหม?
จริงๆ แก้มรู้สึกว่าข้อสอบสังคมยากทุกปีนะคะ ;-; เพราะข้อสอบจะเน้นการวิเคราะห์เค้าจะไม่ได้ถามมาตรงๆ แบบอ่านโจทย์รอบเดียวก็สามารถตอบได้ ต้องอ่านโจทย์ให้ชัดๆ แล้ววิเคราะห์สิ่งที่โจทย์ถามอีกรอบนึง ซึ่งการที่จะทำได้บางข้อก็ต้องอาศัยความรู้รอบตัวด้วย อย่างเช่น ข้อที่ยกชื่อเพลงมา ถ้าเราไม่รู้จักเพลงนั้นเราก็ไม่สามารถตอบได้ ซึ่งนี่เป็นจุดที่แก้มว่ายากสำหรับข้อสอบสังคมเพราะเนื้อหาในข้อสอบไม่ได้ออกแค่ในบทเรียน แต่เราต้องติดตามสถานการณ์ ณ เวลานั้นรวมถึงต้องรู้จักหาความรู้รอบตัวเก็บไว้ด้วยค่ะ
เพิ่มความรู้รอบตัวในการเตรียมสอบสังคมมีโอกาส UP คะแนนสังคมได้
การเตรียมตัวสอบในปีนี้จะค่อนข้างเหมือนกับรอบก่อนค่ะ แต่ส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามาคือแก้มจะมีการศึกษาแล้วก็หาความรู้รอบตัวที่น่าจะเกี่ยวข้องกับวิชาสังคมมาเป็นคลังความรู้ไว้ด้วยค่ะ เพราะจากการสอบในปีที่ผ่านมาแก้มรู้สึกว่าจุดอ่อนของตัวเองคือ ไม่ค่อยมีความรู้รอบตัวมากเท่าไหร่ พอเจอกับคำถามที่วัดความรู้รอบตัวก็เลยทำไม่ได้แล้วก็เสียคะแนนในส่วนนี้ค่อนข้างเยอะค่ะ ปีนี้ก็เลยตั้งใจว่าจะแก้มือในส่วนนี้ให้ได้
รีวิวคอร์สสังคม อ.กนก
แก้มรู้จักคอร์สพิชิต TCAS สังคมศึกษา A-Level ของอ.กนก จากการดูกัปตันออนนี่แนะนำคอร์สเรียนค่ะ แก้มดูแล้วเห็นว่าคอร์สนี้น่าสนใจนะ เลยตัดสินใจที่จะลงคอร์สเรียนซึ่งก็ไม่ผิดหวังค่ะ อ.กนกสอนดีและเข้าใจมากๆ เลยค่ะ การสอนของอ.กนก ทำให้คนที่ไม่ถนัดและไม่ชอบพาร์ทเศรษฐศาสตร์แบบแก้มชอบและทำคะแนนในพาร์ทนี้ได้ดีขึ้นมากๆ แล้วก็ทำให้แก้มสามารถทำคะแนนสอบวิชาสังคมของโรงเรียนได้มากจนได้ Top ตอนสอบกลางภาคด้วย เวลาสอนอาจารย์จะสอนเนื้อหาอย่างละเอียดและครบถ้วน และเมื่อเรียนจบในแต่ละเนื้อหาก็จะมีแบบฝึกหัดให้ทำเพื่อเป็นการทบทวนไปในตัวด้วย ซึ่งแบบฝึกหัดของอาจารย์นั้นมีโจทย์ที่หลากหลายทั้งยากทั้งง่ายปะปนกันให้เราฝึกวิเคราะห์เลย รวมถึงอ.กนกยังมีเทคนิคดีๆ เยอะมากค่ะ เทคนิคที่แก้มชอบมากที่สุดและเอามาใช้อยู่ตลอดคือ การจำเนื้อหาให้เป็นภาพซึ่งมันช่วยให้เราสามารถจำเนื้อหาไว้ในหัวได้แม่นยำเลยค่ะ แล้วแก้มก็ตั้งใจว่าในการเตรียมสอบรอบนี้แก้มก็จะลงเรียนคอร์สนี้อีกรอบด้วย
นำข้อผิดพลาดมาเตรียมสอบใหม่ยังไงบ้าง?
ข้อผิดพลาดคือแก้มคิดว่าแก้มมีวินัยในตัวเองไม่มากพอ เพราะจะมีช่วงสามเดือนก่อนสอบที่แก้มรู้สึกหมดกำลังใจในการอ่านหนังสือสอบแล้วหยุดอ่านไปดื้อๆ กว่าจะกลับมาอ่านอีกครั้งเวลามันก็กระชั้นชิดเข้ามาแล้ว ทำให้เราต้องเร่งอ่านเพื่อให้สามารถเก็บเนื้อหาให้ได้ครบถ้วน เลยทำให้เราไม่สามารถซึมซับความรู้ได้ในแบบที่เข้าใจจริงๆ และข้อผิดพลาดอีกอย่างของแก้มคือเป็นคนที่ไม่รอบคอบ อ่านโจทย์ผิดๆ ถูกๆ แล้วก็มักจะแก้คำตอบจากถูกเป็นผิดอยู่ตลอด เพราะฉะนั้นในปีนี้แก้มเลยตั้งใจว่าตัวเองจะต้องมีวินัยในการอ่านหนังสือให้สม่ำเสมอ และเวลาทำข้อสอบก็ต้องอ่านโจทย์และตรวจทานคำตอบให้ละเอียดกว่าเดิม รวมถึงแก้มจะมีความมั่นใจในตัวเองให้มากขึ้นกว่ารอบก่อนด้วยค่ะ
ฝากถึงน้องๆ ที่กำลังลังเลว่าจะซิ่วดีไหมหน่อยค่ะ
แก้มเชื่อว่าทุกคนมีความฝันแล้วก็มีเป้าหมาย แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะไปถึงเป้าหมายนั้นได้ภายในการสอบแค่ครั้งเดียว แก้มเองก็เป็น 1 ในนั้น แก้มอยากฝากบอกถึงทุกคนที่กำลังลังเลว่าจะซิ่วดีมั้ย มันอาจจะเหนื่อยแล้วก็ท้อ เพราะเราต้องสู้กับแรงกดดันทั้งของตัวเองและคนรอบข้าง แต่แก้มคิดว่าสุดท้ายถ้าผลมันออกมาในแบบที่เราหวังมันก็คุ้มค่าที่จะซิ่ว และถึงซิ่วแล้วไม่ได้ตามที่หวังอย่างน้อยก็ภูมิใจไว้เถอะค่ะว่าคุณได้สู้เพื่อเป้าหมายของตัวเองอย่างเต็มที่แล้ว การสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิตเสมอไป การสอบไม่ติดไม่ได้หมายความว่าเราจะประสบความสำเร็จในชีวิตไม่ได้ค่ะ แก้มขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน พวกคุณเก่งมากๆ เก่งมากที่ยืนหยัดในความฝันของตัวเองค่ะ
นี่ก็เป็นประสบการณ์จริงๆ จากพี่แก้ม จะเห็นว่าแม้พี่แก้มจะผิดพลาดกับการเลือกคณะไปแล้ว แต่พี่แก้มก็นำข้อผิดพลาดทั้งหมดนั้นมาเป็นประสบการณ์ในการเริ่มเตรียมสอบใหม่ จนพิชิตความฝันของตัวเองได้สำเร็จ พี่ๆ ทีม Dek D School ยินดีกับพี่แก้มด้วยนะคะ
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หากน้องๆ อยากเก็บคะแนนสังคมให้ได้คะแนนตามเป้า เพื่อเตรียมพร้อมสอบเข้ามหาวิทยาลัย สามารถเตรียมพร้อมก่อนเข้าสู่สนามสอบจริงผ่านการติวออนไลน์ด้วยคอร์สพิชิต TCAS สังคม กับ อ.กนก Dek-D School โดยคอร์สนี้จะสรุปเนื้อหาครบทุกเรื่องที่ออกสอบ จัดกลุ่มเนื้อหาใหม่ให้เข้าใจง่าย ไม่สับสน พร้อมตะลุยโจทย์ข้อสอบจริงทั้ง มีเฉลยละเอียดพร้อมเทคนิคในการทำข้อสอบเพียบ โดยน้องๆ สามารถวางแผนการเรียนตัวเองได้ว่า ต้องการเรียนเมื่อไหร่ และสามารถเรียนซ้ำกี่รอบก็ได้ไม่จำกัดชั่วโมง 6 เดือนเต็ม พร้อมรับหนังสือประกอบการเรียนส่งตรงถึงบ้านฟรี และที่สำคัญที่สุดแม้ว่าจะเป็นการเรียนออนไลน์ แต่น้องๆ ทุกคนสามารถสอบถามข้อสงสัยกับ อ.กนกได้โดยตรง น้องๆ ที่สนใจสามารถสมัครเรียนได้โดยการคลิกที่นี่เลือกรายวิชาที่กล่องด้านล่างได้เลยค่ะ
หรือน้องๆ สามารถติวฟรี 10 หัวข้อ เก็บคะแนนง่ายใน A-Level สังคมศึกษา โดยการคลิกที่นี่หรือที่กล่องด้านล่างได้เลย
ทั้งนี้น้องๆ ยังสามารถติดตามสาระความรู้และข่าวสารสำหรับการสอบได้ที่ Facebook : Dek-D School และวางแผนติวกับ พี่ๆ Dek-D School ได้ฟรี!!! ที่ Line @schooldekd
