คุณพ่อคุณแม่คงทราบกันอยู่แล้วใช่ไหมคะว่า “การอ่าน” เป็นกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาสมอง สร้างจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็กได้ แม้ปัจจุบัน “ห้องสมุด” จะเป็นแหล่งการอ่านชั้นดี แต่กลับพบว่าห้องสมุดส่วนใหญ่ยังไม่ได้ถูกออกแบบให้เหมาะสมกับเด็กมากนัก
แล้วห้องสมุดสำหรับเด็กน่าจะเป็นอย่างไรบ้าง วันนี้สอนลูกเขียนโปรแกรม By Dek-D จะพาไปที่ห้องสมุดดรุณบรรณาลัย ห้องสมุดสำหรับเด็กปฐมวัยแห่งแรกในประเทศไทยค่ะ
บ้านพักข้าราชการในสมัยรัชกาลที่ 6 ถูกนำมาบูรณะ ตกแต่ง เพื่อใช้เป็นห้องสมุดสำหรับเด็ก
ห้องสมุดสำหรับเด็ก…ภายในซอยเจริญกรุง 34
จากปากซอยเจริญกรุง 34 เดินเข้ามาไม่ไกลนัก เราจะพบกับบ้านโบราณสีเขียวที่อยู่ซ้ายมือ ใช่แล้วค่ะนี่เป็นที่ตั้งของห้องสมุดดรุณบรรณาลัย ห้องสมุดสำหรับเด็กปฐมวัยแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งที่นี่จะเปิดให้บริการ วันพุธ-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00น. ไปจนถึง 17.00น. โดยไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
จุดเริ่มต้นห้องสมุดสำหรับเด็ก
การอ่านเป็นกิจกรรมสำหรับครอบครัว
ห้องสมุดดรุณบรรณาลัยเกิดขึ้นจากการร่วมมือระหว่างมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็กและสถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงงบประมาณสนับสนุนจากมูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยได้รับการออกแบบจากสถาปนิกอาสา บริษัท แปลน อาร์คิเทค ลงมือบูรณะอดีตบ้านพักข้าราชการสมัยรัชกาลที่ 6 โดยคงโครงสร้างเดิมไว้ และออกแบบพื้นที่การเรียนรู้สำหรับเด็กให้อ่านหนังสือได้ในหลากหลายอิริยาบถ ซึ่งนี่ถือเป็นห้องสมุดสำหรับเด็กปฐมวัยแห่งแรกของประเทศไทยค่ะ
ก่อนอื่นเรามาดูกฏการใช้ห้องสมุดของที่นี่กันค่ะ
ก่อนเข้าห้องสมุดก็ต้องถอดรองเท้า
การใช้เสียงในห้องสมุด
- สามารถใช้เสียงได้ แต่ห้ามเสียงดังรบกวนผู้อื่น
- ไม่ควรตะโกนในห้องสมุด
- คุณพ่อคุณแม่สามารถอ่านนิทานให้เด็กๆ ฟังได้
- สามารถใช้เสียงหัดอ่านนิทานได้ด้วยตนเอง
นำหนังสือไปอ่านที่ไหนก็ได้ภายในห้องสมุด
- หนังสืออ่านในห้องก็ได้ อ่านในสวนก็ได้ แต่อย่านำออกนอกรั้วก่อนยืมหนังสือ
- เลือกหนังสือที่ต้องการจากบนชั้นไปอ่านได้เลยแต่อย่าลืมนำกลับมาเก็บที่เดิม
บรรยากาศภายในห้องสมุด
เข้ามาถึงก็ต้องลงทะเบียนการใช้ห้องสมุดที่เคาเตอร์ตรงนี้
เมื่อเดินเข้าประตูภายในห้องสมุด ก็จะพบกับบรรณารักษ์ที่เคาน์เตอร์เป็นอันดับแรก บรรณารักษ์ก็จะให้ลงทะเบียนการเข้าใช้ห้องสมุดโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายการใช้ห้องสมุดแต่อย่างใดค่ะ จากนั้นก็สามารถเลือกอ่านหนังสือตามห้องต่างๆ ที่จัดแบ่งไว้ตามช่วงวัย โดยตามมุมต่างๆ จะมีเบาะทรงโค้งสำหรับนั่งหรือนอนอ่านหนังสือ หรือจะนั่งอ่านที่พื้นก็แล้วแต่ความสะดวกเลยค่ะ
คราวนี้เรามาดูด้านในห้องสมุดกัน
ทันทีเด็กเข้ามาในห้องสมุดก็จะเจอหนังสือมากมาย บ้างก็วางไว้บนชั้น บ้างก็ใส่ไว้ในตะกร้า บ้างก็จัดเรียงไว้ตามมุมต่างๆ
หนังสือบางส่วนจะจัดเรียงไว้ด้านล่างเพื่อให้เด็กสามารถเลือกได้ด้วยตัวเอง
หนังสือส่วนหนึ่งจะจัดเรียงไว้ในตะกร้าแบบนี้
หนังสือจะแบ่งการเรียงหนังสือตามกลุ่มอายุ
มุมนกน้อยปราดเปรียว…มุมหนังสือสำหรับเด็ก 0-3 ปี
มุมนี้เป็นมุมนกน้อยปราดเปรียว ซึ่งเป็นมุมหนังสือสำหรับเด็ก 0-3 ปี
ภายในมุมนี้ก็จะรวบรวมหนังสือที่เหมาะจะเป็นหนังสือเล่มแรกของเด็กเป็นหนังสือที่มีลูกเล่น อย่างหนังสือลอยน้ำ หนังสือมีเสียง และ หนังสือภาพ ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับสิ่งรอบๆ ตัว
หนังสือสัตว์น่ารัก เป็นหนังสือภาพในมุมนกน้อยปราดเปรียวที่กระตุ้นการมองเห็นสำหรับเด็กแรกเกิด
มุมน้องหมีขนฟู…มุมหนังสือสำหรับเด็ก 3-5 ปี
ส่วนนี่ก็เป็นมุมน้องหมีขนฟู สำหรับเด็ก 3-5ปี
ภายในมุมนี้ก็จะรวบรวมหนังสือไว้หลากหลายรูปแบบ เพราะเด็กในวัย 3-5 ปี เป็นวัยที่สามารถเลือกหนังสือ หรือเรื่องราวที่ตัวเองสนใจได้แล้ว
มุมกระต่ายหูยาว…มุมหนังสือสำหรับเด็ก 5 ปีขึ้นไป
มุมกระต่ายหูยาวสำหรับเด็ก 5 ปีขึ้นไป
สำหรับเด็กในวัย 5 ขวบขึ้นไป หนังสือที่นำมารวมไว้ในมุมนี้จะมีตัวอักษรมากขึ้น และมีความซับซ้อนในเรื่องราวมากขึ้นด้วย
สื่อส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาไทยในมุมกระต่ายหูยาว
อย่างตะกร้านี้เป็นสื่อส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาไทยที่กระตุ้นให้เด็กลงมือทำ และสนุกกับภาษาไทยผ่านการเล่น เด็กจะได้รู้จักพยัญชนะ ผสมคำ ด้วยการทอยลูกเต๋า
มุมหนังสืออื่นๆ
นอกจากมุมหนังสือที่แบ่งตามอายุแล้วที่นี่ก็ยังมีมุมหนังสือภาษาต่างประเทศ มุมสารานุกรมสำหรับเด็ก และยังมีมุมหนังสือ Big Book ที่กระจายอยู่ตามมุมต่างๆ ของห้องสมุดด้วย
นี่่เป็นมุมหนังสือภาษาต่างประเทศ ที่รวบรวมหนังสือภาษาอังกฤษสำหรับเด็กทุกวัย
ห้องสมุดจะมีมุมหนังสือ Big Book ซึ่งจะเป็นหนังสือนิทานที่มีภาพประกอบและตัวหนังสือขนาดใหญ่ เหมาะกับการอ่านร่วมกัน ระหว่างเด็กกับคุณพ่อคุณแม่
ส่วนนี่ตัวอย่างหนังสือจากมุมสารานุกรม หนังสือเล่มนี้จะเป็นหนังสือที่มีลูกเล่นคือ ไฟฉายวิเศษ ซึ่งจะทำให้เด็กสนุกไปกับการเรียนรู้
ทุกอย่างล้วนถูกออกแบบให้เด็กอยากเข้าห้องสมุด
หากนึกถึงห้องสมุดคุณพ่อคุณแม่อาจจะคิดว่าต้องมีหนังสืออย่างเดียวเท่านั้น แต่ที่นี่ไม่ได้ถูกออกแบบให้เป็นอย่างนั้นค่ะ เพราะที่นี่ยังมีมุมอื่นๆ ให้เด็กเพลิดเพลินยามที่เบื่อหนังสือตรงหน้าด้วย
อย่างมุมนี้จะสร้างสรรค์เป็นท้องทะเลจำลอง เพื่อให้เด็กๆ ได้มาถ่ายรูป และที่สำคัญจะมีเสื้อผ้าและเครื่องประดับให้เด็กสวมใส่อย่างสนุกสนาน ซึ่งนี่ก็เป็นกิจกรรมที่สร้างความมีส่วนร่วมให้กับเด็ก
ส่วนนี่เป็นโรงพยาบาลหนังสือที่ทางห้องสมุดประดิษฐ์ขึ้น เพื่อให้เด็กได้นำหนังสือที่ขาดหรือเสียหายในห้องสมุดมาใส่ไว้ในโรงพยาบาลเพื่อรอการนำไปซ่อมแซม
สะพานหลายสีที่เห็นคือสะพานสายรุ้งเป็นสะพานเชื่อมต่อด้านในและด้านนอกห้องสมุด จากด้านในเด็กก็สามารถหยิบหนังสือข้ามสะพานสายรุ้งมาอ่านหนังสือที่สนามหญ้าด้านนอกได้ด้วย
เมื่อออกมาด้านนอกก็จะมีร้านกาแฟเล็กๆ ไว้ให้บริการเครื่องดิ่ม
ที่นี่จะจัดให้มีกิจกรรมทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ค่ะ อย่างภาพนี้ เด็กๆ กำลังทำกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกับพี่ๆ ทีมงานดรุณบรรณาลัย ไปพร้อมกับเพื่อนใหม่ และครอบครัว ซึ่งวันนี้เป็นกิจกรรมมากอดเจ้าช้างให้แน๊นแน่นกันเถอะ
นอกจากนี้ทางห้องสมุดยังจัดกิจกรรมในทุกๆ วันเสาร์และวันอาทิตย์ด้วย อย่างวันเสาร์จะมีกิจกรรมเล่านิทาน ส่วนวันอาทิตย์ห้องสมุดจะจัดกิจกรรม “นิทานในลานหญ้า” และมีเวิร์กช็อปพิเศษซึ่งจะสับเปลี่ยนหมุนเวียนในทุกสัปดาห์ เพื่อให้เด็กๆ ได้มาฟังนิทานร่วมกับพ่อแม่ และทำกิจกรรมกับเพื่อนใหม่ๆ ซึ่งหากคุณพ่อคุณแม่ต้องการพาลูกเข้ากิจกรรม ก็สามารถดูตารางกิจกรรมได้ที่ ห้องสมุดดรุณบรรณาลัย ค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับห้องสมุดดรุณบรรณาลัย เชื่อว่าเมื่อคุณพ่อคุณแม่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วคงอยากพาลูกไปสัมผัสห้องสมุดแห่งนี้ใช่ไหมล่ะคะ ว่าแล้วก็ลองชวนลูกมาสนุกกับการเรียนรู้ในห้องสมุดดรุณบรรณาลัยกันค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.tcdc.or.th/creativethailand/article/CreativeWill/27231