Homeสอนลูกเขียนโปรแกรมสัมภาษณ์อดีต นร.ทุนคิง ในวันที่เทคโนโลยีกลายเป็นทักษะจำเป็นของทุกคน

สัมภาษณ์อดีต นร.ทุนคิง ในวันที่เทคโนโลยีกลายเป็นทักษะจำเป็นของทุกคน

คุณพ่อคุณแม่เคยสงสัยไหมคะว่า ทำไมเวลาเราดู YouTube จบไปสักตัวหนึ่งแล้ว ก็จะมีการแนะนำวิดีโอตัวใหม่ให้ดู ซึ่งตอนแรกเราอาจไม่ได้ตั้งใจดูวิดีโอนั้น แต่ก็จะรู้สึกว่า “เอ๊ะ มันน่าดูจัง” ใครเป็นคนแนะนำข้อมูลเหล่านี้ หรือเว็บเขามีคนคอยดูพฤติกรรมของเราอยู่ตลอดเวลา งานเดาใจผู้ใช้งานแบบนี้ ไม่ใช่ฝีมือของหมอดูที่ไหนหรอกค่ะ แต่เป็นเจ้า Artificial Intelligence หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า AI ซึ่งเป็นโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์สุดอัจฉริยะที่เหล่าวิศวกรคอมพิวเตอร์สร้างขึ้น เพื่อใช้งานต่าง ๆ ในชีวิตรอบตัวเราค่ะ เจ้า AI ไม่ใช่ของใหม่บนโลกของเรา มีคนเก่ง ๆ เรียนด้านนี้และประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์แก่โลกเรามากมายเลยค่ะ

คุณนอต – ธรรมนิติ์ พิพัฒน์ศรีสวัสดิ์

วันนี้ทีมงาน สอนลูกเขียนโปรแกรม by Dek-D มีโอกาสพูดคุยกับ คุณนอต – ธรรมนิติ์ พิพัฒน์ศรีสวัสดิ์ อดีตตัวแทนนักเรียนไทยไปแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกระหว่างประเทศ และได้รับทุนเล่าเรียนหลวง ไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ด้าน Electrical and Computer Engineering และ  Computer Science ที่ Carnegie Mellon University สหรัฐอเมริกา และจบปริญาเอกด้าน Artificial Intelligence

ระหว่างเรียนคุณนอตเคยฝึกงานที่ Facebook สหรัฐอเมริกา ปัจจุบันทำงานเป็น senior software engineer ที่ Google ซึ่งการพูดคุยกับคุณนอตครั้งนี้ทำให้เรารู้สึกเลยว่า “เทคโนโลยีรอบตัวเรามันสำคัญมาก ๆ สำคัญต่อทั้งวันนี้ และต่ออนาคต” และมันจำเป็นมากที่ต้องให้ลูกหลานของเรารู้จักและมีทักษะทางเทคโนโลยีเหล่านี้ค่ะ


สอนลูกเขียนโปรแกรม:  ก่อนอื่นขอคำจำกัดความของ AI ได้ไหมคะ

“AI คือ โปรแกรมที่นำไปทำอะไร แล้วทำออกมาได้ฉลาดเหมือนคนทำ”

จริง ๆ แล้วความฉลาดของคนมันเรามีหลายด้าน บางคนอาจฉลาดด้านคิดเลข บางคนฉลาดด้านศิลปะ ซึ่ง AI มันเป็นการเลียนแบบความฉลาดของคนในด้านต่าง ๆ ที่เราวางโปรแกรมไว้ครับ ตัวอย่างคือใน YouTube เวลาเราดูวิดีโอตัวหนึ่งจบแล้ว ก็จะมีวิดีโอถัดไปที่ถูกแนะนำขึ้นมา ซึ่งการแนะนำนี้มี AI อยู่เบื้องหลัง มันจะเลือกวิดีโอขึ้นมาจากจำนวนวิดีโอมากมายใน YouTube ซึ่งมันอาจจะไม่ได้เลือกวิดีโอที่มียอดวิวเยอะที่สุด แต่มันจะแนะนำวิดีโอที่เข้ากับเรามากที่สุด หรืออย่างโพสต์บน feed ของเราใน Facebook ก็เช่นกัน มันจะเลือกแนะนำโพสต์หรือเพจไหนที่น่าจะมีประโยชน์ที่สุดสำหรับเรา พวกนี้มันไม่ได้ถูกเลือกมามั่ว ๆ แต่ AI เป็นคนเลือกขึ้นมา เสมือนมีคนมานั่งทำความเข้าใจตัวเราว่าสนใจอะไร แล้วก็คอยแนะนำสิ่งที่ดีให้กับเรา นั่นแหละ คือ AI มันทำให้ชีวิตคนเราสบายขึ้น ทำให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สอนลูกเขียนโปรแกรม: ขออนุญาตย้อนกลับไปนิดนึง ทำไมถึงมาเรียนด้าน Computer Science และ AI คะ

ตอนเด็ก ๆ ก็เล่นชอบเล่นเกมนี่แหละ แล้วก็ได้ลองใช้คอมพิวเตอร์ ก็รู้สึกว่าคอมพิวเตอร์ดูเป็นอะไรที่น่าสนใจ ตอนนั้นรู้สึกว่าคอมพิวเตอร์มันเป็นแขนงที่ยังใหม่อยู่ เทคโนโลยีก็เริ่มเป็นกระแส มองดูแล้วเป็นศาสตร์ที่จะมีการพัฒนาไปได้อีกไกลและมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนโลกได้ในอนาคต

สอนลูกเขียนโปรแกรม:  แล้วคอมพิวเตอร์หรือเทคโนโลยี มันจะสำคัญอย่างไรต่ออนาคตของลูกของเราคะ ควรส่งเสริมลูกอย่างไร หรือถ้าลูกเกิดติดเทคโนโลยี (ติดเกม / ติดคอม) ควรทำอย่างไร

ตอนผมเด็ก ๆ จะฮิตเล่นเกม Super Famicom ซึ่งในความคิดผมการเล่นเกมเป็นเรื่องดี มันส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์  แล้วตัวเองก็ชอบเล่นเกม แต่ส่วนหนึ่งเพราะพ่อแม่ผมก็มีกฎระเบียบ ไม่ใช่ว่าจะเล่นเท่าไหร่ก็เล่นไป เช่น เปิดเทอมห้ามเล่นนะ ก็คือมีต้องกฎมีระเบียบพอสมควร เกมมันส่งเสริมให้เด็กได้ใช้จินตนาการ พ่อแม่ก็ต้องรู้ว่าลูกเล่นได้ถึงเวลาไหนถึงเวลาไหน และก็ไม่ใช่ว่าจะปล่อยให้อยู่กับมือถือได้ตลอดเวลา

สิ่งสำคัญคือพ่อแม่ต้องสังเกตว่าลูกเราชอบมาทางนี้หรือทางไหน เราก็ต้องฝึกให้ความชอบและความคิดสร้างสรรค์ของเขางอกงาม ในขอบเขตที่เรากำหนดไว้ แล้วพอถึงเวลา เราก็ค่อยผันเอาความคิดสร้างสรรค์และความชอบนั้น มาเป็นตัวส่งเสริมต่อให้เป็นประโยชน์ต่อไปในเวลาที่เหมาะสม อย่างถ้าลูกชอบคอม ตอนเล็ก ๆ ก็หัดให้เล่นเกมที่เหมาะกับวัย และพ่อแม่ต้องคอยดูแลใกล้ชิด พอสัก ป.3 ป.4 ก็อาจลองให้เขียนโปรแกรมง่าย ๆ สร้างตัวการ์ตูนที่ลูกชอบ เช่นเว็บ Scratch ที่เป็นเหมือนเกมลากบล็อกคำสั่งง่าย ๆ หรืออย่างคอร์สสร้างหุ่นยนต์สำหรับเด็ก

สอนลูกเขียนโปรแกรม: ได้เห็นหลักสูตรวิชาบังคับใหม่ วิทยาการคำนวณ (Computing Science: CS) ที่เน้นการเขียนโปรแกรมแล้วใช่ไหมคะ คิดว่าวิชานี้สำคัญอย่างไร

ความเป็นจริงที่เกิดขึ้น คือ ประเทศชั้นนำของโลกแทบทุกประเทศสอนวิชานี้ ตั้งแต่ประถมอยู่แล้ว ทั่วโลกรู้อยู่แล้วว่า การใช้คอมพิวเตอร์ให้ปลอดภัย และการเขียนโปรแกรม มันเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับคนเราในโลกยุคปัจจุบันนี้ และในวิชา CS นี้มันสอนหลายทักษะ อย่างการใช้คอมพิวเตอร์และสื่อออนไลน์ให้ถูกวิธี การเขียนโปรแกรม รวมไปถึงการฝึกคิดให้เป็นระบบ

สอนลูกเขียนโปรแกรม: งั้นแล้วถ้าลูกอยากเป็นทนายล่ะคะ ไม่เห็นต้องเขียนโปรแกรมเเลย วิชานี้ตอบโจทย์เด็กกลุ่มที่ไม่ได้อยากทำอาชีพด้านเทคโนโลยีอย่างไร

ทนายต้องใช้คอมพิวเตอร์ไหม ทนายก็ต้องใช้คอมอย่างไรให้ปลอดภัย ทนายต้องเก็บรักษาข้อมูลของลูกความ ใช้อย่างไรให้ไม่โดนขโมยข้อมูล แล้วอย่างการค้นหาข้อมูลมาประกอบคดี ต้องใช้คีย์เวิร์ดการค้นหาอย่างไร เว็บไหน ไม่ใช่แบบเสิร์ชแล้วก็ไปเจอเว็บข่าวปลอมข้อมูลปลอม เช็กข้อเท็จจริงอย่างไร มันล้วนเป็นส่วนที่อยู่ในวิชานี้ คือ ใช้คอมอย่างไรให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ในวิชาวิทยาการคำนวณนี้ แม้บทเรียนจะสอนเขียนโปรเเกรม แต่ประโยชน์แอบแฝง คือทักษะแก้ไขปัญหา

เราจะทำปัญหาที่ยากให้ง่ายขึ้นอย่างไร มันต้องมีการจัดปัญหาเป็นขั้น ๆ เปรียบเทียบกับปัญหาเดิมได้ไหม ทางแก้แบบเดิมได้ผลไหม มันเป็นศาสตร์ของการแก้ปัญอย่างมีขั้นตอน ซึ่งมันจะแฝงอยู่ในการเรียนเขียนโปรแกรม การเขียนโปรแกรมเป็นเครื่องมือให้เด็กได้ฝึกทักษะการคิด สำหรับเด็กที่อยากโตไปเป็นทนายความ ทนายความก็ต้องพูดให้รู้เรื่อง พูดวนไปวนมาก็แพ้คดี เวลาพูดก็ต้องเรียบเรียงความคิดและพูดออกมาเป็นขั้น ๆ ให้ได้ นี่แหละวิชานี้เข้ามาช่วยในส่วนของการจัดระเบียบความคิดของคน และสื่อสารความคิดออกมาเป็นคำพูดเป็นข้อ ๆ ให้คนเข้าใจได้ง่าย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นผลพลอยได้จากการเรียนเขียนโปรแกรม

จริง ๆ แล้ว ตัวเด็กอาจไม่ได้รู้หรอกว่าเรียนเขียนโปรแกรมไปแล้วได้ทักษะแก้ปัญหาอย่างไร เขาแค่สนุกไปกับการเรียน แต่มันจะปรากฏด้วยตัวเอง สมมติเด็กเจอโจทย์ “ฉันต้องการย้ายเก้าอี้ 10 ตัวนี้ไปตรงโน้น โดยผ่านประตูนี้ต้องทำยังไง” เด็กที่ไม่ได้เรียนโปรแกรมมิ่งมาก็อาจอะ เออ ก็ย้าย ๆ ไป ยกไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องสนใจ แต่เด็กที่เรียนโปรแกรมมิ่งมาก็ต้องคิดก่อนว่า โอเคงั้นใช้วิธีนี้วางแผน 1 2 3 ยกแบบไหนจะเร็วสุด ง่ายสุด เหนื่อยน้อยสุด คือมันคือการปูพื้นฐานการคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ

โอ้โห! จากที่พูดคุยกับคุณนอตมานี้ ทำให้เห็นเลยว่า การเรียนเขียนโปรแกรมมีประโยชน์จริง ๆ ค่ะ อย่าว่าแต่ในอนาคตของลูก ๆ เราเลยค่ะ ณ วันนี้ใครบ้างไม่ได้ใช้มือถือไม่ได้ใช้เทคโนโลยี ดังนั้น การเรียนวิชาเทคโนโลยีในยุคนี้จึงไม่ใช่เรื่องเสียเวลา มันมีประโยชน์ต่อทักษะการคิดเชิงสร้างสรรรค์ ใช้แก้ปัญหาอย่างได้ผลจริง ซึ่งมันอาจไม่ได้เห็นผลทันทีที่ให้เด็กเริ่มเรียนตั้งแต่ปีแรก แต่ในอนาคต…ตอนที่ลูกเราเรียนจบ ตอนที่ลูกของเราต้องไปทำงาน ทักษะเหล่านี้จะติดตัวลูกของเราไปด้วย

อนาคตเทคโนโลยีก็ยังเดินหน้าไปเรื่อย ๆ ค่ะ การให้ลูกของเรามีทักษะด้านเทคโนโลยีตั้งแต่วันนี้ จะทำให้ลูกไม่ตกหลุมพรางด้านลบของเทคโนโลยี และกลายเป็นความก้าวหน้าของชีวิตแน่นอนค่ะ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular

Recent Comments