ใครจะรู้ว่า ลูก5 ขวบ ก็สามารถเรียนเขียนโปรแกรมได้แล้ว!
หนูน้อยวัย 5 ขวบ เก่งและกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้มากกว่าที่พ่อแม่คิด เด็กๆ มีความพร้อมในพัฒนาการ 4 ด้าน ทั้งด้านร่างกาย เช่น สามารถใช้มือได้คล่องแคล่วขึ้น ด้านสติปัญญาที่เริ่มเล่าเรื่องราวง่ายๆ ได้ ด้านอารมณ์และสังคม เช่น ต้องการมีเพื่อนและมีความเชื่อมั่นมากขึ้น พ่อแม่ที่เคยลังเลว่าเร็วไปไหมที่จะให้ลูกเริ่มเรียนเขียนโปรแกรม จึงสบายใจได้ว่าลูกมีความพร้อมเพียงพอ เพียงแต่ต้องจำกัดเวลาในการอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม และเลือกโปรแกรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ตามวัยให้กับเด็กด้วย เรื่องนี้เป็นที่ยอมรับในหลายประเทศทั่วโลกที่เป็นผู้นำด้านการศึกษา รวมทั้งในประเทศไทย
หลักสูตรเขียนโปรแกรมอยู่ในหลักสูตรระดับชาติของหลายประเทศทั่วโลก
ในอเมริกามีการผลักดันให้ครูระดับอนุบาลราว 20,000 คน สอนให้เด็กได้รู้จักการเขียนโปรแกรมเบื้องต้นใน 30 เขตพื้นที่การศึกษา ทั้งในนิวยอร์คและชิคาโก โดยบรรจุการเขียนโค้ดไว้ในหลักสูตร ส่วนอังกฤษได้ปรับหลักสูตรระดับชาติให้มีการสอนเขียนโปรแกรมให้เด็กวัย 5-6 ขวบ มาตั้งแต่ปี 2557 ในขณะที่เอสโตเนียมีการสอนเด็กให้เรียนเขียนโค้ดตั้งแต่เกรด 1 (6-7 ปี) ตั้งแต่ปี 2555 โดยช่วงแรกมีการใช้หลักสูตรนำร่องในโรงเรียนประถมศึกษาจำนวน 20 โรงเรียน และเพิ่มขึ้นอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน
สำหรับประเทศในเอเชีย สิงคโปร์เปิดโอกาสให้เด็กประถมเริ่มเรียนเขียนโค้ดกับชมรมไอทีของโรงเรียน โดยการสนับสนุนของ องค์การพัฒนาการสื่อสารและสารสนเทศแห่งสิงคโปร์ (Infocomm Development Authority of Singapore – IDA) แต่ยังไม่ได้บรรจุไว้ในหลักสูตร ส่วนในญี่ปุ่น รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการวางแผนที่จะบรรจุการเรียนด้านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ไว้ในหลักสูตรระดับประถมศึกษาแล้ว โดยจะเริ่มในปี 2563 และข่าวดีสำหรับเด็กไทย นั่นคือมีการเพิ่มเติมหลักสูตรวิทยาการคำนวณ เพื่อให้เด็กในระดับประถม 1 ได้มีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมอย่างง่ายโดยการใช้ซอฟท์แวร์หรือสื่อ โดยหลักสูตรนี้จะเริ่มใช้ในปี 2561
เลือกโปรแกรมที่เป็นมิตรและส่งเสริมพัฒนาการเด็ก
เพื่อให้แน่ใจว่าลูกเล็กจะได้เรียนรู้การเขียนโปรแกรมอย่างเหมาะสมตามวัย การเริ่มต้นกับโปรแกรมที่เป็นมิตรและถูกออกแบบมาให้เหมาะกับพัฒนาการของเด็กแต่ละวัยเป็นทางเลือกที่ดี เช่น ScratchJr ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยมหาวิทยาลัย MIT ร่วมกับนักวิชาการด้านพัฒนาการเด็กแห่งมหาวิทยาลัยทัฟส์ ให้เป็นโปรแกรมที่เหมาะสมกับเด็กวัย 5-7 ปี โดยเฉพาะ เด็กๆ จะสนุกกับการฝึกใช้บล็อกคำสั่งที่นำมาเรียงต่อกันอย่างง่ายๆ เพื่อไห้ตัวละครสามารถทำสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหว เต้นรำ ร้องเพลง โดยสามารถปรับเปลี่ยนคาแร็คเตอร์ของตัวละครได้หลายรูปแบบ ทั้งเปลี่ยนสีให้สวยงาม เพิ่มเสียงเข้าไป หรือแม้แต่เพิ่มรูปของเด็กๆ ผู้เขียนโปรแกรมเข้าไปได้ด้วย จากนั้นจึงใช้บล็อคคำสั่งทำให้ตัวละครเหล่านั้นมีีชีวิตขึ้นมา
เมื่อเด็กฝึกเล่น ScratchJr จึงเท่ากับเป็นการกระตุ้นพัฒนาการของเด็กวัยนี้อย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมจินตนาการในการออกแบบตัวละครต่างๆ ทำให้เด็กเข้าใจเรื่องตัวเลข การฝึกใช้ภาษา และกระบวนการแก้ปัญหาเป็นขั้นเป็นตอน(algorithms) ผ่านการเขียนโปรแกรมคำสั่ง นอกจากนั้นในการแชร์โครงการที่ทำเสร็จแล้วให้เพื่อนๆ ได้เข้ามาดู ทำให้เด็กเรียนรู้ที่จะแลกเปลี่ยนความเห็นและฝึกฝนทักษะทางสังคมได้เป็นอย่างดี
ข้อควรระวังที่พ่อแม่ควบคุมได้
ไม่ว่าจะเริ่มต้นเรียนเขียนโปรแกรม หรือเริ่มต้นหัดขี่จักรยาน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีข้อควรระวังทั้งสิ้น สำหรับการอยู่หน้าจอเพื่อฝึกทักษะการเขียนโค้ด พ่อแม่สามารถควบคุมให้ลูกได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ โดย หลีกเลี่ยงในเรื่องต่อไปนี้
- เลือกการฝึกเรียนเขียนโปรแกรมที่ทำให้เด็กได้มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆ เพื่อให้ลูกได้มีพัฒนาการทางสังคมที่ดี เช่น โปรแกรมที่สามารถแชร์หรือร่วมแบ่งปันกับเด็กคนอื่นๆ ได้
- จำกัดเวลาการอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสม เพราะการนั่งจุ้มปุ๊กนานเกินไป เสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพหลายอย่าง โดยเฉพาะปัญหาในการกินที่อาจนำไปสู่ความอ้วนได้ สมาคมกุมารเวชศาสตร์อเมริกัน แนะนำว่าเด็กในวัย 2-5 ปี ควรใช้เวลาอยู่หน้าจอไม่เกินวันละ 1 ชั่วโมง
- เด็กวัย 6-12 ปี พ่อแม่ควรจำกัดเวลาในการรับข้อมูลด้านดิจิตัลมีเดีย ตามความเหมาะสมของแต่ละครอบครัว โดยให้ความสำคัญกับกิจกรรมหลักๆ ใน 1 วัน (ประมาณ 8-12 ชั่วโมง) เช่น การทำการบ้าน การมีกิจกรรมทางร่างกาย และการเล่นกับเพื่อนๆ เมื่อทำกิจกรรมสำคัญๆ เหล่านี้เสร็จ เวลาที่เหลือจึงเป็นเวลาของการอยู่หน้าจอที่เหมาะสม
เพื่อให้เจ้าตัวน้อยฝึกฝนพัฒนาการได้อย่างเต็มศักยภาพ การเปิดโอกาสให้ลูกได้เริ่มต้นกับ ScratchJr จึงเป็นทางเลือกของพ่อแม่ที่มองการณ์ไกลอย่างแท้จริง หากมีข่าวสารหรือหลักสูตรที่น่าสนใจ “สอนลูกเขียนโปรแกรม” จะคอยนำเสนออย่างต่อเนื่อง รับรองว่าจะเป็นแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนเขียนโค้ดที่คุณพ่อคุณแม่วางใจได้อย่างแน่นอน