HomeTCASรวมครบ! เตรียมสอบ กสพท67 พิชิตแพทย์ ทันตะ สัตวะ เภสัช

รวมครบ! เตรียมสอบ กสพท67 พิชิตแพทย์ ทันตะ สัตวะ เภสัช

สวัสดีค่ะ น้องๆ สายหมอที่กำลังเตรียมตัวเข้าคณะแพทย์ ทันตะ สัตวะ เภสัช เตรียมตัวกันไปถึงไหนแล้วคะ ในช่วงที่ผ่านมาพี่ได้ติดตามข่าว TCAS67 โดยการสอบในปีนี้มีหลายประเด็นที่แตกต่างจากปีที่แล้ว ในบทความนี้พี่จะมาสรุปประเด็นสำคัญสำหรับน้องๆ สายหมอให้พร้อมรับมือกับ TCAS ยื่นคะแนน กสพท67 วางแผนอ่านให้ตรงจุด ในช่วง 6 เดือนสุดท้ายกัน

ยื่นคะแนน กสพท67 ต้องสอบอะไรบ้าง?

ตอนนี้กำหนดการสอบ TCAS67 ก็ออกมาครบแล้ว มาดูกันเลยว่าสอบเมื่อไหร่ เหลือเวลาเตรียมตัวอีกนานแค่ไหน โดยเฉพาะสำหรับน้องๆ ที่จะยื่นเข้าคณะแพทย์ ทันตะ สัตวะ เภสัช ในรอบ กสพท จะต้องรู้ว่าถ้าจะยื่น กสพท67 ต้องใช้คะแนน 2 ส่วน ได้แก่ คะแนน TPAT1 กสพท และ A-Level (สัดส่วนคะแนนอ้างอิงจาก TCAS66)

  1. คะแนน TPAT1 วิชาเฉพาะ กสพท ใช้สัดส่วน 30% มีสอบ 3 พาร์ท คือ เชาว์ปัญญา จริยธรรมทางการแพทย์ และเชื่อมโยงความเป็นเหตุเป็นผล
  2. คะแนน A-Level ใช้สัดส่วน 70% แบ่งเป็น 7 วิชา คือ ฟิสิกส์, เคมี, ชีววิทยา, คณิต, อังกฤษ, ไทย และ สังคม โดยคะแนนแต่ละวิชาต้องได้ไม่น้อยกว่า 30% ของคะแนนเต็ม
เกณฑ์ยื่นคะแนน กสพท 67

ใครสมัครรอบกสพท ได้บ้าง

*จากประกาศล่าสุดของ กสพท ณ 8 สิงหาคม 2566 มีการปลดล็อกให้ทุกสายการเรียนสามารถยื่นคะแนนคณะทันตแพทยศาสตร์ได้แล้ว

ใครสมัครรอบกสพทได้บ้าง

ทุ่มให้ถูกจุด อ่านยังไงให้พร้อมสอบ TPAT1 กสพท67

เตรียมสอบกสพท วิชาสัดส่วนเยอะ
เตรียมสอบกสพท วิชาช่วย

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่า TPAT1 มีสอบทั้งหมด 3 พาร์ท มาดูกันว่าข้อสอบแต่ละพาร์ทออกอะไรบ้าง ควรเน้นเรื่องอะไร จุดไหนที่ต้องระวังไม่ให้พลาดคะแนนไปง่ายๆ งั้นมาเริ่มกันเลย (เนื้อหาอ้างอิงจาก TCAS67)

1. เชาว์ปัญญา

  • เชาว์ปัญญาคณิตศาสตร์ จะเป็นคณิตที่ไม่ยากมากแต่ให้เวลาน้อย ถ้าข้อไหนไม่ได้ให้ข้ามไปก่อนเลย ข้อสอบจะเน้นไปที่เรื่องมิติสัมพันธ์ (เช่น หารูปที่หายไปหรือรูปถัดไป อุปมาอุปไมเชิงรูป) เชาว์ปัญญา (เช่น วิเคราะห์เงื่อนไข วิเคราะห์ความเพียงพอของข้อมูล) และคณิตศาสตร์พื้นฐาน (เช่น ร้อยละ อัตราส่วน, พื้นที่และปริมาตร, โจทย์ปัญหาสมการเงื่อนไข) แต่ข้อสอบปีล่าสุด ให้กราฟมาค่อนข้างเยอะมาก และแต่ละกราฟถามหลายคำถามเลย น้องๆ อย่าลืมฝึกเรื่องการอ่านกราฟไว้ด้วยนะ
  • เชาว์ภาษาไทย เก็บคะแนนได้ง่ายกว่าพาร์ทแรก ข้อสอบจะเน้นวิเคราะห์บทความ เช่น อ่านจับใจความ อนุมานข้อมูล เจตนาของผู้แต่ง

2. จริยธรรมทางการแพทย์

ข้อสอบจะยกกรณีหรือสถานการณ์ต่างๆ โดยเน้นสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน และให้ตัดสินใจว่าถ้าน้องๆ อยู่ในสถานการณ์นั้นๆ จะทำยังไง โดยคำตอบของแต่ละข้ออาจมีมากกว่า 1 และคะแนนแต่ละตัวเลือกจะลดหลั่นกันไป แนะนำว่าพาร์ทนี้ให้น้องๆ ตอบโดยดูบริบทของคำถามดีๆ หาสาเหตุของปัญหาและหาวิธีแก้ไขที่ต้องช่วยคนอื่นได้และไม่เกิดผลเสียต่อตัวเองด้วย

3. ทักษะการเชื่อมโยง

ข้อสอบส่วนนี้จะคล้ายกับข้อสอบ GAT เชื่อมโยง แต่มีความยากและซับซ้อนกว่า เพราะไม่มีตัวหนามาให้และข้อความในบทความก็ไม่เหมือนกับข้อความที่กำหนดมาให้ด้วย แต่ถือว่าเป็นพาร์ทที่สามารถเก็บคะแนนได้มากที่สุด แต่ขอย้ำว่าถ้าไม่รู้ห้ามเดา เพราะถ้าตอบผิดจะโดนหักคะแนนไปเลย แนะนำให้ฝึกทำโจทย์เยอะๆ ถ้าจุดไหนผิดให้รีบทำความเข้าใจใหม่ และพยายามอย่าให้ผิดแบบเดิมซ้ำ ตอนสอบก็อ่านบทความดีๆ เน้นความรอบคอบ พยายามจับคีย์เวิร์ดให้ได้

ทุ่มให้ถูกจุด อ่านยังไงให้พร้อมสอบ A-Level

วางแผนการอ่านดีช่วยให้การเตรียมตัวสอบของน้องๆ ง่ายขึ้น โดยน้องๆ สามารถอ้างอิงจาก Test Blueprint ของปีที่แล้วเป็นแนวทางก็ได้ งั้นเรามาดูกันว่าแต่ละวิชา ควรเน้นเรื่องอะไร จุดไหนที่ต้องระวังไม่ให้พลาด มาดูแยกแต่ละวิชาเลย!

คณิตประยุกต์

ข้อสอบคณิตประยุกต์วัดทักษะการคำนวณและวัดคอนเช็ปต์ของเนื้อหาแบบเชิงลึก ต้องเข้าใจเนื้อหา และที่มาของสูตรอย่างดี โดยโจทย์รูปแบบใหม่จะเป็นโจทย์ประยุกต์ที่มีจุดหลอก ถ้าไม่เข้าใจนิยามก็จะตอบผิดได้ รวมทั้งประยุกต์โจทย์กับสถานการณ์ต่างๆ มีการเชื่อมโยงเนื้อหาระหว่างบท น้องๆ ต้องเข้าใจเนื้อหาทั้งหมด และสามารถดึงมาแก้โจทย์ให้ได้ อย่าลืมลุยทำโจทย์เยอะๆ ด้วยนะ

รูปแบบข้อสอบแบ่งเป็น

  • ปรนัย 5 ตัวเลือก : 25 ข้อ : 75 คะแนน
  • อัตนัย (ระบายคำตอบที่เป็นค่า/ตัวเลข) : 5 ข้อ : 25 คะแนน

แนะนำให้เริ่มอ่านเป็นวิชาแรกๆ เก็บทฤษฎีแต่ละบทให้แม่นก่อน แล้วค่อยทำโจทย์ เริ่มจากการแยกทำโจทย์แต่ละบทแล้วค่อยทำโจทย์แบบคละบท วิชาคณิตต้องฝึกทำโจทย์สม่ำเสมอเลยเป็นวิชาที่ทำควบคู่ไปกับการอ่านวิชาอื่นได้ ส่วนตอนทำข้อสอบต้องย้ำกับตัวเองว่าให้รอบคอบ เพราะถึงบางข้อจะง่ายแต่ถ้าสะเพร่าขึ้นมาพลาดคะแนนไปเลยนะคะ 

อ่านวิเคราะห์แนวข้อสอบ คณิตประยุกต์ เพิ่มเติม คลิกเลย

ฟิสิกส์

ฟิสิกส์เป็นวิชาที่มีทั้งทฤษฏีและคำนวณเลย ย้ำเลยว่าต้องเข้าใจเนื้อหาจริงๆ โดยพาร์ทคำนวณต้องอาศัยการฝึกทำโจทย์เยอะๆ แนะนำให้ลองฝึกทำโจทย์หลายๆ วิธี ที่สำคัญน้องๆ ควรทำความเข้าใจที่มาของสูตรดีๆ อย่าแค่ท่องสูตรได้ เพราะโจทย์ฟิสิกส์ปีหลังๆ ไม่ได้แค่แทนค่าแล้วหาคำตอบได้แบบเดิมแล้ว การรู้ที่มาของสูตรจะช่วยให้น้องสามารถตีโจทย์ หาคำตอบได้ ไม่โดนหลอกด้วยตัวแปร

ข้อสอบฟิสิกส์เน้นประยุกต์ เน้นวัดความเข้าใจคอนเช็ปต์แบบลึกๆ และจะมีเนื้อหาจากหลายๆ บทมายำรวมกัน แล้วให้เราคิดเอาเองว่าจะใช้ความรู้จากบทไหนมาแก้โจทย์นี้ น้องๆ มักมีปัญหาเรื่องความรอบคอบ แนะนำให้อ่านโจทย์ดีๆ ดูว่าโจทย์ให้ตัวแปรมารึป่าว โจทย์กำหนดค่าตัวแปรที่เท่าไหร่ เพราะบางข้ออาจจะไม่ได้ใช้ค่าประมาณในการหาคำตอบ จุดนี้เลยเป็นจุดหลอกที่มักทำให้เสียคะแนนไปง่ายๆ

รูปแบบข้อสอบแบ่งเป็น

  • ปรนัย 5 ตัวเลือก : 25 ข้อ : 75 คะแนน
  • อัตนัย (ระบายคำตอบที่เป็นค่า/ตัวเลข) : 5 ข้อ : 25 คะแนน

เนื้อหาข้อสอบปีนี้แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่

  1. กลศาสตร์ : 8 – 10 ข้อ
  2. คลื่นกล และแสง : 5 – 7 ข้อ
  3. ไฟฟ้า แม่เหล็กและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า : 6 – 8 ข้อ
  4. อุณหพลศาสตร์และสมบัติเชิงกลของสาร : 3 – 5 ข้อ
  5. ฟิสิกส์แผนใหม่  : 3 – 5 ข้อ

อ่าน Test Blueprint วิชาฟิสิกส์ เพิ่มเติม คลิกเลย

เคมี

เคมีเป็นอีกวิชาที่คอนเซ็ปท์จับต้องได้ หลักการค่อนข้างตายตัว ใช้ความเข้าใจเป็นหลัก เคมีเป็นวิชาที่เตรียมตัวไม่ยากมาก แต่เป็นตัวช่วยดึงคะแนนขึ้นได้ดี ควรฝึกตะลุยโจทย์เยอะๆ เพราะข้อสอบเคมีโจทย์เน้นประยุกต์ เน้นวัดความเข้าใจคอนเช็ปต์แบบลึกๆ มีผสมความรู้และทฤษฎีจากหลายๆ บทรวมกัน ต้องทำไว และเน้นความรอบคอบ โดยเฉพาะพาร์ทคำนวณต้องระวังเรื่องหน่วยให้ดีเลย และแม้จะท่องสูตรได้ แต่ถ้าไม่เข้าจริงก็โดนหลอกได้ง่ายๆ แน่นอน

รูปแบบข้อสอบแบ่งเป็น

  • ปรนัย 5 ตัวเลือก : 30 ข้อ : 75 คะแนน
  • อัตนัย (ระบายคำตอบที่เป็นค่า/ตัวเลข) : 5 ข้อ : 25 คะแนน

เนื้อหาข้อสอบปีนี้แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

  1. สมบัติของธาตุและสารประกอบ : 15 – 17 ข้อ
  2. สมการเคมีและการเปลี่ยนแปลงทางเคมี : 15 – 17 ข้อ
  3. ทักษะในปฏิบัติการเคมีและการคำนวณปริมาณของสาร : 2 – 4 ข้อ

อ่าน Test Blueprint วิชาเคมี เพิ่มเติม คลิกเลย

ชีวะ

ชีวะเป็นวิชาที่มีเนื้อหาเยอะ ต้องอาศัยความเข้าใจและความจำ แนะนำว่าน้องๆ ควรเริ่มอ่านเนื้อหาให้แม่นคอนเซ็ปต์หลัก และเริ่มตะลุยโจทย์เลย ขอบอกตรงนี้ว่าตะลุยโจทย์ชีวะสำคัญมากๆ ห้ามมองข้ามเด็ดขาด เพราะข้อสอบชีวะเน้นประยุกต์ เน้นวัดความเข้าใจคอนเช็ปต์แบบลึกๆ ต้องทำไว คิดไว ถ้าฝึกทำโจทย์เยอะๆ จะช่วยให้น้องๆ อ่านได้คล่องและวิเคราะห์ได้เร็วขึ้น และเป็นการรีเช็คว่าน้องแม่นเรื่องนั้นๆ จริงมั้ย ถ้ายังไม่แม่นพอก็ยังกลับมาทวนซ้ำได้ 

รูปแบบข้อสอบแบ่งเป็น

  • ปรนัย 5 ตัวเลือก : 35 ข้อ : 84 คะแนน
  • เลือกตอบเชิงซ้อน : 5 ข้อ : 16 คะแนน

เนื้อหาข้อสอบปีนี้แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่

  1. ความหลากหลายทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อม : 5 – 7 ข้อ
  2. หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต : 6 – 8 ข้อ
  3. ระบบและการทำงานต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์  : 12 – 14 ข้อ
  4. โครงสร้างและการทำงานของส่วนต่าง ๆ ในพืช : 6 – 8 ข้อ
  5. พันธุศาสตร์และวิวัฒนาการ : 6 – 8 ข้อ

อ่าน Test Blueprint วิชาชีวะ เพิ่มเติม คลิกเลย

ภาษาอังกฤษ

ด้วยความที่ภาษาอังกฤษมีเนื้อหาไม่หนักมากนัก แนะนำให้ทยอยเก็บเนื้อหาไปเรื่อยๆ ควบคู่ไปกับวิชาอื่นๆ เพราะภาษาอังกฤษต้องอาศัยความเคยชิน และคลังคำศัพท์ การเจอโจทย์ที่หลากหลาย จะช่วยให้น้องคุ้นเคยและมีแนวทางในการทำข้อสอบมากขึ้น ย้ำว่าทำโจทย์เยอะๆ และสม่ำเสมอช่วยได้แน่นอน

โดยข้อสอบปีนี้จะเน้นเรื่องไวยากรณ์ และ Academic English และมีรูปแบบตามนี้เลย 

  1. ทักษะการฟังและการพูด (Listening and Speaking Skills) : 20 ข้อ : 25 คะแนน
  • เติมบทสนทนาแบบสั้น (Short conversation) : 12 ข้อ 3 บทสนทนา 
  • เติมบทสนทนาแบบยาว (Long conversation) : 8 ข้อ 1 บทสนทนา 
  1. ทักษะการอ่าน (Reading Skill) : 40 ข้อ : 50 คะแนน
  • โฆษณา (Advertisement) : 6 ข้อ 2 บทความ
  • บทวิจารณ์สินค้าหรือบริการ (Product or service review)  : 6 ข้อ 1 บทความ
  • รายงานข่าว (News report) : 6 ข้อ 1 บทความ
  • ภาพประกอบบทความ (Visual)  : 6 ข้อ เช่น กราฟ ตาราง แผนผัง หรือ แผนภูมิ จำนวน 2 เรื่อง
  • บทความทั่วไป  : 16 ข้อ บทความประมาณ 500– 600 คำ หรือ 1 หน้ากระดาษ A4 จำนวน 2 บทความ
  1. ทักษะการเขียน (Writing Skill) : 20 ข้อ : 25 คะแนน
  • เติมบทความให้สมบูรณ์ (Text completion) : 15 ข้อ 3 บทความ
  • เรียงประโยคให้เป็นย่อหน้าที่สมบูรณ์ (Paragraph organization) : 5 ข้อ 5 ย่อหน้า

อ่าน Test Blueprint วิชาภาษาอังกฤษ เพิ่มเติม คลิกเลย

ภาษาไทย

เนื้อหาเยอะ ต้อง Grouping เป็นระบบ ฝึกหาคีย์เวิร์ดของข้อสอบ อย่าลืมฝึกทำข้อสอบเก่า

เป็นอีกวิชาเนื้อหาเหมือนจะดูเยอะแต่จริงๆ ถ้าลองทำโจทย์เก่าๆ น้องๆ จะเห็นรูปแบบของโจทย์ว่ามันออกใกล้เคียงกัน อยากแนะนำให้ฝึกทำโจทย์เยอะๆ ฝึกหาคีย์เวิร์ดให้เป็น พอไปเจอข้อสอบจริงๆ จะช่วยให้น้องหาคำตอบได้ง่ายขึ้น เก็บคะแนนได้มากขึ้นแน่นอน

  • เรื่อง หลักภาษา ควรเก็บคะแนนให้ได้ เพราะแค่เข้าใจหลักการก็ทำได้แล้ว 
  • เรื่อง การอ่าน/ การพูด/ การฟัง จะเน้นคิดวิเคราะห์ ต้องแม่นหลักการและวิเคราะห์ให้เป็น 

อ่าน Test Blueprint วิชาภาษาไทย เพิ่มเติม คลิกเลย

สังคม

สังคมเป็นหนึ่งในวิชาที่เนื้อหาค่อนข้างเยอะ ควรทยอยอ่านจะดีกว่าอ่านทีเดียวรวดเดียวไปเลย แนะนำให้น้องๆ ลอง Grouping ให้เป็นระบบ จะได้ไม่สับสน ฝึกหาคีย์เวิร์ดของข้อสอบแต่ละเรื่องด้วยการฝึกทำ จะช่วยให้หาคำตอบได้ง่ายขึ้นมาก

  • 4 บทนี้ เน้นวิเคราะห์ : กฎหมาย, รัฐศาสตร์, เศรษฐศาสตร์ และภูมิศาสตร์ 
  • 3 บทนี้ เน้นความจำ : ศาสนา, ประวัติศาสตร์ และ สังคมวิทยา 
  • 2 บทนี้ มีคำนวณ : ศรษฐศาสตร์ และภูมิศาสตร์

อ่าน Test Blueprint วิชาสังคมศึกษา เพิ่มเติม คลิกเลย


การเตรียมตัวไม่ว่าจะวิชาอะไร นอกจากการอ่านหนังสือเก็บเนื้อหาให้แม่นแล้ว น้องๆ ควรฝึกตะลุยโจทย์แบบจับเวลาจริง จะได้รู้ว่าควรจัดสรรเวลาในการทำข้อสอบยังไง โจทย์แบบไหนเราควรใช้เวลานาน ได้รู้ว่าข้อสอบมักออกประมาณไหน ต้องเน้นจุดเน้น จุดหลอกมักจะเป็นอะไร ได้รู้แนวของข้อสอบจริงจะได้เตรียมตัวให้พร้อมมากขึ้น 

จากกำหนดการสอบแต่ละวิชาก็เหลือเวลาน้อยลงทุกที น้องที่ยังไม่เริ่มรีบจัดสรรเวลาดีๆ นะ และที่สำคัญอยากเป็นหมอห้ามเทสักวิชา เพราะแต่ละวิชาก็ใช้ค่าน้ำหนักสัดส่วนคะแนนที่ต่างกันไป วิชาที่เราคิดจะเทอาจเป็นวิชาที่ทำให้เราสอบติดหมอก็ได้ เพราะฉะนั้นตอนนี้ยังพอมีเวลา มาตั้งใจทำให้เต็มที่ทุกวิชาเลย

“อยากเป็นหมอห้ามเทสักวิชา เพราะแต่ละวิชาสำคัญ ใช้ค่าน้ำหนักสัดส่วนคะแนนที่ต่างกันไป”

แต่สำหรับน้องๆ ที่ยังไม่พร้อม ไม่มั่นใจ และไม่รู้จะเริ่มอ่านหนังสือยังไง สามารถเตรียมพร้อมก่อนสอบ ยื่นคะแนน กสพท66 ผ่านการติวออนไลน์จาก Dek-D School ติวได้ทันที ทุกหัวข้อ ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง ติวได้แบบเน้นๆ กับอาจารย์ขั้นเทพ ทุกคอร์สสอนโดยทีมอาจารย์ จุฬาฯ, ม.มหิดล, ม.เชียงใหม่ ทวนซ้ำได้ไม่จำกัดตลอดอายุคอร์สเรียน

  • สรุปเนื้อหาครบ สอนวิเคราะห์ ตามแนวข้อสอบรูปแบบใหม่ 
  • สอนตรงประเด็น เน้นความเข้าใจ เน้นจุดออกบ่อย และจุดที่ชอบพลาด
  • ประยุกต์ใช้เนื้อหาได้จริง ตะลุยโจทย์ตรงตามแนวข้อสอบ TCAS67
  • โจทย์จัดเต็ม อัปเดตข้อสอบปี 66! เฉลยละเอียดทุกข้อทุกขั้นตอน เทคนิคจัดเต็มไม่มีกั๊ก
  • คอร์สเดียวครบ ใช้สอบได้ทุกสนาม A-Level และ TGAT/TPAT กระชับใช้เวลาน้อยกว่า
  • สงสัยเมื่อไหร่ ให้ถามทันที ถามอาจารย์ใต้คอร์สได้ พร้อมรับแจ้งเตือนการตอบกลับ

สมัครติวเป็น Pack คุ้มกว่า ดูรายละเอียด Pack คลิก

Pack ติวออนไลน์กับ Dek-D School

หรือเลือกสมัครคอร์สที่ใช่ได้เลย ราคาเริ่มต้นเพียง 490.- ดูรายละเอียดคอร์สเพิ่มเติม ได้เลย

พิเศษ!! ผ่อนชำระ 0% สูงสุด 4 เดือน

ผ่อนชำระ 0% สูงสุด 4 เดือน ไม่มีค่าธรรมเนียม ผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการเลย
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก

ติวจริง ติดจริง! รุ่นพี่การันตี

น้องๆ Dek67 ไม่ต้องกังวลใจ คอร์สเรียนเนื้อหาครบตรงหลักสูตรใหม่ พร้อมโจทย์อัปเดตข้อสอบปีล่าสุดทุกปี การันตีจากรุ่นพี่ๆ ถึงข้อสอบจะเปลี่ยนไป แต่เนื้อหาที่ใช้สอบยังเหมือนเดิม มาฟังรีวิวคอร์สจากรุ่นพี่ที่เรียนกับ Dek-D School จริงๆ กันเลย

รีวิวจากรุ่นพี่ ติวกับ Dek-D School

น้องๆ ที่ยังอยากดูรีวิวเพิ่มเติมอีกเพื่อความมั่นใจ สามารถเข้าไปอ่านรีวิวจากรุ่นพี่เพิ่มเติม ที่นี่เลย หรือบทความ รวมรีวิว ติวออนไลน์กับ DEK-D SCHOOL จาก STUDYGRAM, บทความ รีวิว ติวออนไลน์ Dek-D School จากรุ่นพี่ ดีไหมมาดูกัน และ บทความ รวม รีวิว ติวออนไลน์ Dek-D School จาก Twitter

ทดลองเรียนฟรี! เตรียมพร้อมยื่นคะแนน กสพท67

สำหรับน้องๆ คนไหนที่ยังลังเล มาหาคำตอบด้วยตัวเองใน คอร์สทดลองเรียน TCAS 8 เรื่อง 8 วิชา ทั้ง คณิตประยุกต์ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ อังกฤษ ไทย สังคม และ TPAT1 ทดลองเรียนได้เต็มที่ 1 เดือนเต็ม พร้อมเอกสารประกอบการเรียนให้ดาวน์โหลดฟรี พิเศษสุดๆ! เรียนจบแล้วท้ายคอร์สมีโค้ดส่วนลดสำหรับสมัครคอร์สพิชิต TCAS อีกด้วยนะ ไม่ต้องคิดแล้วมาเรียนกันเลย!

“อย่ารอไปติวตอนจะหมดเวลา ติวก่อน พร้อมก่อน ติดก่อน!”

ทักมาปรึกษาพี่ๆ เรื่องติวออนไลน์ได้เลย

น้องๆ ที่อยากปรึกษา พูดคุยเกี่ยวกับการเตรียมตัวสอบ หรืออยากสอบถามรายละเอียดคอร์สติวต่างๆ ให้ตรงจุดที่ต้องการ สามารถปรึกษาพี่ๆ ได้เลยที่ Line @SchoolDekD หรือน้องๆ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดคอร์สเรียนที่สนใจเพิ่มเติมได้ที่ DekDSchool.com เลย และอย่าลืมติตามข้อมูลข่าวสารการสอบ TCAS67 และเทคนิคการติวต่างๆ เพิ่มเติม ได้ทาง Social media ของ Dek-D School เลย

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular

Recent Comments