น้องๆ ม.ปลายที่กำลังประสบปัญหาในการเลือกคณะ ไม่ว่าจะยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกเรียนคณะอะไรดี หรือยังลังเลว่าคณะที่เลือกจะตรงกับความชอบเองจริงหรือไม่ วันนี้พี่แยม รุ่นพี่จาก คณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ ม.ธรรมศาสตร์ ที่เคยมีความชอบด้านรัฐศาสตร์มาก่อน จะมาแชร์วิธีการค้นหาตัวตนจนเจอคณะที่ใช่ พร้อมเทคนิคเตรียมสอบจนสอบติดคณะยอดฮิตของสายศิลป์ จะเป็นอย่างไร ไปติดตามได้เลยค่ะ
ก่อนอื่นให้น้องแนะนำตัวหน่อยค่ะ
สวัสดีค่ะ ชื่อ แยม-อสมาภรณ์ ทูโคกกรวด จบการศึกษาจาก คณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ค่ะ
จากที่เคยมีแพชชั่นด้านรัฐศาสตร์ทำไมถึงตัดสินใจเรียน คณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ มธ.
จริงๆ สตอรี่ค่อนข้างยาว เพราะกว่าจะมาลงเอยที่เอกภาษาอังกฤษหรือที่เรียกกันติดปากว่า เอกอิ๊ง แยมก็ผ่านอะไรมาไม่น้อย! เริ่มจาก…แยมมีแพชชั่นด้านรัฐศาสตร์มาก่อน เรารู้สึกว่าอินกับเรื่องการเมืองระหว่างประเทศและประวัติศาสตร์การเมืองอะไรพวกนี้มาก เข็นตัวเองอ่านหนังสือตั้งแต่ม.5 เทอมหนึ่ง เพราะว่าสมัยนั้นรัฐศาสตร์ มธ. ต้องสอบตรง (สมัยนั้นคือปีไหนจำไม่ได้แล้วงับ ;__;) จนม.5 เทอมสองได้มีโอกาสเข้าค่ายเยาวชนนักรัฐศาสตร์ของจุฬา ได้เจอพี่ๆ และเพื่อนๆ ที่มีแพชชั่นเหมือนกับเรา ได้เปิดมุมมองของคณะนี้มากขึ้นจึงคิดว่ายังไม่ใช่ 100% แยมเลยถอยหลังกลับมาตั้งหลักดูก่อน
ค้นหาตัวเองจนเจอคณะที่ใช่ด้วยการเข้าค่ายและไปกิจกรรม Open House
พอขึ้นม.6 ก็เปิดโอกาสให้ตัวเองได้รู้จักคณะต่างๆ รวมทั้งชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยที่แตกต่างกันผ่านกิจกรรม Open House บ้าง เข้าค่ายบ้าง… ตอนนั้นเรามารู้ตัวอีกทีว่าต้องเป็นมธ. ที่ตอบโจทย์ทั้ง Lifestyle และ Nature ของเราที่ชอบเข้าสังคมและทำกิจกรรม รวมถึงสามารถดีไซน์ชีวิตการเรียนในรูปแบบของเราเองได้ แต่พอไม่รู้สึกอยากเข้ารัฐศาสตร์ขนาดนั้นแล้ว ก็เริ่มมีแนวโน้มไปทางบริหารเสียมากกว่า แต่ติดตรงที่แยมเรียนสายศิลป์-ภาษาญี่ปุ่นมา วิชาคณิตจึงเป็นอุปสรรคชิ้นโตที่ทำให้แยมพลาดโอกาสเข้ารอบรับตรงของคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีของมธ. แยมจึงตั้งใจเต็มที่ในรอบแอดมิชชั่น โดยโฟกัสที่จุดแข็งของเราคือภาษาอังกฤษ
ตอนนั้นหวังแค่ว่าเข้าคณะสายสังคมอะไรได้ก็ดีใจแล้ว 555 แต่พอคะแนนออกมาก็เกินคาด! ความตั้งใจของเราทำให้คะแนนภาษาอังกฤษไปไกลเกินกว่าที่คาดหวังไว้ แยมไม่ตั้งใจจะยื่นเข้าเอกอิ๊งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ด้วยเสียงรอบข้างที่เชียร์และรุ่นพี่หลายๆ คนก็บอกว่าแยมทำได้! ก็เลยติดคณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ แบบงงๆ โดยที่ลงยื่นคณะนี้ไว้อันดับหนึ่งของรอบแอดมิชชั่น
คณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ คณะยอดฮิตการแข่งขันสูงอันดับต้นๆ ของสายศิลป์
ด้วยความที่เป็นเอกยอดฮิตของเด็กสายศิลป์รวมถึงเด็กสายวิทย์ก็สามารถยื่นเข้าได้ ถือว่าการแข่งขันสูงม๊ากกกกก! โดยเฉพาะรอบแอดมิชชั่นที่กำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำของคะแนน A-Level ของภาษาอังกฤษไว้ที่ 60 คะแนน++ และนำไปคำนวนกว่า 50% พูดได้ว่าเป็นเอกที่การแข่งขันสูงอันดับต้นๆ (สมัยแยมกำหนดคะแนน ONET วิชาภาษาอังกฤษต้องผ่านเกณฑ์ที่ 75 คะแนนเลยนะ T_T) แต่ก็อย่างที่บอกไปแต่ต้นว่าแยมไม่ได้ตั้งเป้าที่เอกนี้แต่แรก แต่ไปตั้งเป้าหมายในการทำคะแนนวิชาที่ตัวเองถนัดให้ได้มากที่สุด นั่นก็คือ “ภาษาอังกฤษ” เพราะนอกจากเอกอิ๊ง มธ. ก็มีอีกหลายคณะ หลายหลักสูตรที่ใช้เกณฑ์การยื่นคล้ายๆ กัน สารภาพตามตรงก็คือตะลุยอ่านแค่วิชาเดียวกว่า 70% ของเวลาอ่านหนังสือทั้งหมด แทบอ้วกออกมาเป็นตำราไวยากรณ์ ฮรืออ~
เรียนเอกภาษาอังกฤษต้องมีแพชชั่นในวิชาภาษาอังกฤษ!!
ชื่อเอกภาษาอังกฤษถ้าแพชชั่นไม่อยู่ที่วิชานี้บอกตามตรงว่าคงไม่ใช่ทางค่ะ 5555 แต่ไม่ใช่ว่าเด็กเอกอิ๊งทุกคนต้องสปีคอิงลิชคล่องปร๋อตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าคลาสรูมอะไรแบบนั้นนะคะ ขนาดแยมเป็นคนที่ชอบภาษาอังกฤษมากกกและตั้งใจเต็มที่จนผ่านด่านแอดมิชชั่นมาได้ แต่นั่นคือข้อสอบค่ะ! เมื่อมาเรียนจริงๆ ทั้งหลักสูตร ตำราเรียน อาจารย์ รวมทั้งภาษาที่ใช้สื่อสารก็คืออิ๊งเกือบ 90% ยอมรับเลยว่าสกิลการฟัง-พูดของเรานั้นแค่พอสื่อสารได้เอง แรกๆ เลยยังไม่กล้าพูดกับเพื่อนและอาจารย์ต่างชาติ แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคในการเรียนเลย เพราะว่าเพื่อนๆ และอาจารย์ต่างก็มี positive mindset ในการช่วยผลักดันให้เราเรียนในแต่ละวิชา พูดได้เลยว่าสังคมในเอก nice มาก ไม่มีการบุลลี่สำเนียงเอเชีย หรือเหยียดคนพูดไม่เก่งอะไรแบบนั้น สรุปคือเลเวลภาษาแค่ผ่านการสอบเข้ามาได้ก็คือคุณพร้อมเรียนในเอกนี้ระดับหนึ่งอ่ะ ขอแค่น้องๆ มีใจพร้อมกายพร้อมเราทำได้! (สโลแกนคุ้นมั้ย 5555)
เคล็ดลับเตรียมสอบให้ผ่านด่านแอดมิดชั่น
แน่นอนว่าความชอบหรือแพชชั่นอย่างเดียวไม่เพียงพอให้สอบผ่านแอดมิชชั่นมหาโหดมาได้ เพราะก็มีคนเก่งๆ มากมายที่พร้อมยื่นเข้าเอกนี้ และเขาอาจเก่งกว่าเรา! เคล็ดลับของแยมคือการเตรียมตัว ไม่ใช่การโหมอ่านหนังสือหรือทุ่มเวลาเรียนพิเศษนะคะ แยมเตรียมตัวอ่านหนังสือแต่เนิ่นๆ ตั้งแต่ม.5 เทอมหนึ่ง และแบ่งเวลาชัดเจนในการอ่านแต่ละวิชา รวมถึงการแบ่งเวลาพักเพื่อไม่ให้ตัวเอง burn out หรือหมดกำลังใจนั่นเอง! ส่วนใหญ่กว่า 70% แยมทุ่มให้วิชาภาษาอังกฤษ โดยเน้นที่การทำโจทย์และทบทวนข้อผิดพลาดของตัวเอง เช่น ช่วงก่อนสอบ GAT (หรือ TGAT) จะเน้นทำโจทย์ข้อสอบปีเก่าๆ วนไป พยายามวนชุดเดิมเพื่อให้ชินกับแพทเทิร์นของข้อสอบ พอจับแนวทางโจทย์ได้แล้วจึงมาแบ่งเป็นเรื่องๆ ว่า เรื่องไหนเราทำผิดบ่อยต้องทบทวนเนื้อหาเฉพาะเรื่องนั้น ส่วนของคำศัพท์แยมอาศัยการซึมซับจากชีวิตประจำวัน ทั้งดูหนัง ฟังเพลง แยมชอบมากกับการปริ้นเนื้อเพลงออกมานั่งแปลตามบริบท ซึ่งตรงนี้ช่วยแยมได้มากในการทำข้อสอบ Reading ที่แยมไม่ถนัดเลย หากคำศัพท์ไหนจำไม่ได้สักที จะทำสรุปเป็นหมวด Synonyms & Antonyms (คำความหมายเหมือน-ตรงข้าม) หรือจำเป็นหมวด Prefixes & Suffixes (การเติมรากศัพท์) ใช่ค่ะ! แยมไม่ได้เรียนพิเศษวิชานี้เลย แต่เราก็หาโอกาสเรียนรู้เทรนด์หรือทริคใหม่ๆ ที่เราอาจจะมองข้ามไป เช่น ไปลงเรียนฟรีของสถาบันต่างๆ ตาม Youtube บ้าง ตาม Social media บ้าง สิ่งสำคัญคือกำลังใจและการพักผ่อนค่ะ ช่วงม.5 – 6 แยมยังคงทำกิจกรรมและ Hang out กับเพื่อนตลอด โดยแบ่งเวลาชัดเจนเลยว่าเราต้องทบทวนหนังสือกี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แล้วอย่าลืมว่าจิตใจของเราก็สำคัญไม่แพ้กัน 🙂
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หากน้องๆ ยังลังเลอยู่ว่าคณะที่เลือกจะใช่คณะที่ชอบจริงหรือไม่ การเข้าค่าย ก็จะทำให้น้องๆ ได้รู้ความชอบของตัวเองมากขึ้น หรือการไปทำกิจกรรม Open House ก็ทำให้น้องๆ ได้ทำความรู้จักกับคณะได้มากขึ้นด้วย และในบทความหน้าใครที่อยากรู้การเรียนของคณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ มธ. แบบเจาะลึก พี่แยมจะพาน้องๆ ไปเจาะลึกหลักสูตรและการเรียนของอย่างละเอียดด้วย
หากน้องๆ ยังมีข้อสงสัยในการเลือกคณะหรือการเตรียมสอบ อยากจะปรึกษาพี่แยมตัวต่อตัว สามารถมานัดวิดีโอคอลกับพี่แยมได้เลย โดยน้องๆ สามารถจองคิวขอคำปรึกษาพี่แยมได้ที่นี่ หรือค้นหาพี่คนอื่น ๆ ได้เลยที่ www.coachdd.app
www.coachdd.app เว็บไซต์วิดีโอคอลปรึกษารุ่นพี่เรื่องเรียน-สอบเข้ามหาวิทยาลัย อยู่ที่ไหนก็คุยได้ ใช้เพียงมือถือ คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต น้องๆ สามารถถามคำถามได้ไม่อั้น ได้คำตอบชัดเจน เจาะลึกแบบเรียลไทม์ และที่สำคัญสามารถเลือกรุ่นพี่ที่สนใจ เลือกเวลาที่สะดวก และเลือกแพ็กเกจที่ต้องการได้เลย
ทั้งนี้น้องๆ ยังสามารถติดตามสาระความรู้และข่าวสารสำหรับการสอบได้ที่ Facebook : CoachDD by Dek-D หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ฟรีที่ LINE Official Account: @coachdd