HomeCoachDDรีวิวสาขาเปิดใหม่ปี 65 คณะมนุษยศาสตร์ สาขาเกาหลีธุรกิจ ม.เกษตรศาสตร์ 

รีวิวสาขาเปิดใหม่ปี 65 คณะมนุษยศาสตร์ สาขาเกาหลีธุรกิจ ม.เกษตรศาสตร์ 

มีน้องๆ คนไหนที่กำลังสนใจและหาข้อมูลคณะมนุษยศาสตร์ สาขาเกาหลีธุรกิจ ม.เกษตรศาสตร์ ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่เมื่อปี 2665 อยู่บ้าง วันนี้พี่มิลค์นักศึกษารุ่นแรกของสาขานี้จะมารีวิวหลักสูตรและการเรียนของคณะนี้อย่างละเอียด ถ้าพร้อมแล้วไปติดตามได้เลยค่ะ

ก่อนอื่นให้น้องแนะนำตัวหน่อยค่ะ 

สวัสดีค่า มิลค์ ธมลวรรณ เล้าชัยวัฒน์ นะคะ ปัจจุบันเรียนอยู่สาขาเกาหลีธุรกิจ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 ค่ะ

เป็นนักศึกษารุ่นแรกของ สาขาเกาหลีธุรกิจ ม.เกษตรศาสตร์

พี่มิลค์ สาขาเกาหลีธุรกิจ

ในปีการศึกษา 2565 สาขาวิชาเกาหลีธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เปิดตัวเป็นปีแรก มีโครงสร้างหลักสูตรที่น่าสนใจมาก ได้เรียนทั้งภาษาเกาหลี (ที่เน้นไปในเชิงธุรกิจ) และวิชาที่เกี่ยวกับธุรกิจด้วย เลยคิดว่าทางเลือกอาชีพน่าจะหลากหลายมากขึ้น โดยน้องๆ สามารถเข้าไปดูโครงสร้างหลักสูตร สาขาวิชาภาษาเกาหลีธุรกิจโดย คลิกที่นี่ได้เลย

โครงสร้างหลักสูตรของสาขานี้เป็นยังไง

สำหรับภาคปกติที่เราเรียน ตัวโครงสร้างหลักสูตร คือ มีวิชาหมวดศึกษาทั่วไป เป็นวิชาบังคับของมหาวิทยาลัยที่เราต้องเก็บให้ครบ ภายในระยะเวลา 4 ปี สามารถวางแผนลงเรียนได้ด้วยตัวเองเลยค่ะ ปี 1 วิชาเฉพาะบังคับ(เอก)ที่บังคับจะมีวิชาภาษาเกาหลีธุรกิจ วิชาสนทนาภาษาเกาหลีธุรกิจ (สอนโดยอาจารย์ชาวเกาหลี) วิชาหลักการจัดการ และวิชาหลักการตลาด และวิชาเฉพาะเลือก (โท) ให้เลือกลง 1 ตัว (ในปีเราวิชาโทที่เปิดให้เลือกได้มีทั้งหมด 3 หมวด ได้แก่ กลุ่มวิชาบริหารธุรกิจ กลุ่มวิชานวัตกรรมการท่องเที่ยว และกลุ่มวิชาภาษาจีนธุรกิจ) เราเลือกเรียนกลุ่มวิชานวัตกรรมการท่องเที่ยวเป็นวิชาโท ปี 2 เริ่มเน้นภาษาเกาหลีมากขึ้น เทอมแรกมีวิชาที่เป็นภาษาเกาหลีเพิ่มขึ้นมา  2 วิชา คือ วิชาการอ่านภาษาเกาหลีเพื่องานอาชีพ และการอ่านภาษาเกาหลีผ่านวัฒนธรรมบันเทิงร่วมสมัย โดยทั้งสองวิชานี้สอนโดยอาจารย์ชาวเกาหลี ส่วนในเทอมที่ 2 จะมี วิชาระบบเสียงภาษาเกาหลี และการเขียนภาษาเกาหลีเพื่อการสื่อสารเพิ่มขึ้นมาอีก ปี 3 ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยคู่สัญญาที่ประเทศเกาหลีใต้ ปี 4 มีเรียนวิชาหลักการเขียนแผนธุรกิจภาษาเกาหลี และวิชาโท ถ้าหากยังมีวิชาหมวดศึกษาทั่วไปที่ยังเก็บไม่ครบในช่วง 2 ปีแรก ก็ต้องมาลงเรียนในช่วงปี 4 

จุดเด่นของสาขานี้คือหลักสูตร 3+1 คือได้ไปเรียนที่เกาหลี 1 ปีการศึกษา

ความพิเศษของหลักสูตรที่นี่ ที่ทำให้แตกต่างจากที่อื่น คือหลักสูตร 3+1 ค่ะ คือ ปี 1,2,4 เรียนที่ไทย และปี 3 ไปเรียนที่เกาหลี 1 ปีการศึกษาเต็มๆ ด้วย รู้สึกว่าการไปเรียนที่ประเทศเจ้าของภาษาน่าจะช่วยทำให้ได้เข้าถึงภาษาและวัฒนธรรมได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้นและน่าจะช่วยพัฒนาทักษะหลายๆ ด้านที่เป็นประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพในอนาคตด้วย นอกจากนั้นการเลือกเรียนในภาษานี้แล้ว ก็อาจจะมีโอกาสไปทำงานที่นั้นด้วย การได้ลองไปใช้ชีวิตในช่วงวัยเรียนก่อนก็น่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ค้นหาตัวเองให้มากขึ้นด้วย เลยเป็นจุดที่ทำให้สนใจสาขานี้ค่ะ และอีกอย่างสาขานี้ยังเป็นหลักสูตรที่ไม่ได้เรียนแค่ภาษา แต่เป็นการเรียนภาษาในเชิงธุรกิจ ซึ่งค่อนข้างเป็นภาษาที่ใช้เฉพาะทางมากกว่าวิชาภาษาปกติค่ะ 

สาขาเปิดใหม่ ยังไม่มีรีวิวจากรุ่นพี่ ทำไมถึงเลือกสอบเข้าสาขานี้

เอาจริงๆ ตอนนั้นก็ถือเป็นการตัดสินใจที่ยากมากๆ เลยค่ะ เพราะไม่มีรุ่นพี่ ไม่มีคนที่เคยจบจากสาขานี้เลยด้วย มีข้อมูลแค่รายวิชาในหลักสูตร แล้วก็รู้แค่ว่าต้องไปเรียนที่เกาหลี ตอนปี 3 เท่านั้นเลย ตอนนั้นก็หาข้อมูลแทบทุกมหาวิทยาลัยในไทยที่มีสอนสาขาเกี่ยวกับวิชาภาษาเกาหลีเลย หลักสูตรหลายมหาวิทยาลัยน่าสนใจมากเช่นกัน แต่เท่าที่หาข้อมูล ณ ตอนนั้น เหมือนจะมีแค่ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่เปิดสอนหลักสูตรเกาหลีธุรกิจ ไม่ใช่เรียนแค่ภาษาเฉยๆ แต่มีธุรกิจด้วย เลยมองไกลไปที่ทักษะที่จะได้รับ+ทางเลือกอาชีพ ก็เลยลองตัดสินใจเลือกสาขานี้ค่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่ว่าเมื่อมีทางเลือกแล้ว ก็เลยอยากลองเลือกดูสักครั้งค่ะ

ความยากในการสอบเข้า

สำหรับเราที่เข้ามาในสาขานี้เป็นรุ่นแรก คิดว่าความยากจริงๆ อยู่ที่ความไม่รู้ในหลายๆ เรื่องเกี่ยวกับตัวสาขา เพราะเปิดเป็นรุ่นแรก ทำให้ไม่มีคะแนนปีก่อนหน้าให้เทียบว่าเราควรจะทำคะแนนได้ประมาณไหน ทำให้ค่อนข้างกดดันว่าต้องอ่านหนังสือ ต้องเรียนและฝึกทำข้อสอบให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และที่สำคัญไม่รู้อัตราส่วนการแข่งขัน แล้วก็ไม่มีรุ่นพี่ให้ปรึกษาด้วยค่ะ ซึ่งตอนปีเรายังเป็นระบบ TCAS ในปี 65 เราสอบเข้ามาในรอบที่ 3 เปิดรับ 40 คน ใช้คะแนน PAT7.7 50% GAT 30% GPAX 20% วิชาที่ต้องเตรียมเป็นพิเศษเลยคือ PAT เพราะเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดค่ะ 

มาดูการเรียนกันบ้างเป็นยังไง ยากไหม?

ตอนปี 1 ยังเป็นการปูพื้นและยังอยู่ในช่วงปรับตัวกับชีวิตมหาลัยเลยยังเรียนวิชาเอกไม่แน่นมาก แต่พอขึ้นปี 2 แล้ววิชาเอกที่เรียนอยู่ทั้งหมดก็ตอบโจทย์ตามที่คิดไว้มากๆ ค่ะ ตอนนี้ก็เรียนภาษาเกาหลีทุกวันเลย 555 ส่วนพวกวิชาบังคับของมหาลัยตัวอื่นๆ ก็ถือว่ามีวิชาให้เลือกเยอะมาก ทำให้ได้ความรู้ในแขนงอื่นๆ ไปในตัวด้วยค่ะ ยังไม่รู้ว่าจะได้นำไปใช้มั้ย แต่การได้เรียนรู้ก็ถือว่าเป็นความรู้ที่ติดตัวไปได้ค่ะ ถ้าถามว่าการเรียนคณะนี้ยากไหมสำหรับเราตอนปี 1 คิดว่ายังไม่ยากมาก แต่อาจจะเน้นไปทางเนื้อหาที่เยอะค่ะ เพราะปี 1 จะได้เรียนวิชาบังคับมหาวิทยาลัยหลายตัวซึ่งแต่ละตัวก็เรียนค่อนข้างลึก เวลาสอบที่ก็ต้องจำเยอะมากเลยค่ะ ส่วนวิชาเอกที่เป็นภาษาเกาหลีจะเน้นไปที่การจำศัพท์เป็นส่วนใหญ่ พอขึ้นปี 2 แล้วก็ใช้คำว่ายากได้แล้วค่ะ 555 เพราะว่าเรียนวิชาเอกเยอะมาก แทบจะไม่มีวิชานอกคณะเลย การสอนก็เริ่มสอนเป็นภาษาเกาหลีโดยอาจารย์ชาวเกาหลีมากขึ้นด้วย เนื้อหาก็เยอะขึ้น ต้องอ่านไปล่วงหน้า+ทบทวนหลังเรียนอยู่ตลอดเลยค่ะ

บรรยากาศการเรียนที่นี่เป็นยังไงบ้าง

จาก 1 ปีที่ผ่านมาในรั้วมหาวิทยาลัยของเรา เริ่มจากเรื่องสภาพแวดล้อมภายในมหาวิทยาลัย (วิทยาเขตบางเขน) เป็นมหาวิทยาลัยที่มีขนาดใหญ่มากๆ แล้วก็ต้นไม้เยอะ ธรรมชาติเยอะมากค่ะ โดยคณะมนุษย์ศาสตร์ของเรา ตั้งอยู่บริเวณกลางมหาวิทยาลัยพอดี สามารถเดินทางเข้ามาได้หลายวิธี ทั้งใช้บริการรถเวียนของมหาวิทยาลัย (รถตะลัย) รถจักรยานยนต์รับจ้าง หรือจะเดินได้ค่ะ แต่ช่วงหน้าฝนม.เราก็ขึ้นชื่อเรื่องน้ำท่วมเช่นกันค่ะ 555

เรื่องสังคม เพื่อนในสาขา สำหรับรุ่นเราคือเพื่อนๆ ทุกคนต่างคนต่างมาจากหลายโรงเรียน หลายจังหวัดมาก ๆ ทำให้มีเพื่อนแบบหลากหลายสุดๆ แต่ปรับตัวเข้าหากันได้อย่างดีเลยค่ะ เรื่องเรียนทุกคนก็จะตั้งใจเรียน ช่วยซัพพอร์ตกัน แชร์เนื้อหาสรุปให้กันและกันในช่วงสอบด้วยค่ะ 

ในส่วนของอาจารย์ในสาขาวิชา อาจารย์ใจดี ให้ความช่วยเหลือและรับฟังความคิดเห็นนิสิตอยู่เสมอเลยค่ะ สามารถเรียนได้อย่างมีความสุขเลยค่ะ มีเรื่องอะไรก็สามารถปรึกษาได้หรือถ้ามีปัญหาอาจารย์ก็จะคอยรับฟังและช่วยแก้ไขให้ค่ะ

สิ่งที่เราชอบของคณะนี้คือ มีกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ให้เลือกเข้าร่วมได้เยอะมากค่ะ อย่างของเราตอนปี 1 เราก็เข้าร่วมโครงการของมหาวิทยาลัยคู่สัญญา เป็นเหมือนโครงการแลกเปลี่ยนระยะสั้นที่เกาหลีด้วยค่ะ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้เราได้สะสมประสบการณ์ควบคู่ไปพร้อมกับการเรียนค่ะ 

แนะนำเทคนิคเตรียมสอบสำหรับรุ่นน้อง

ตอนนั้นเริ่มเตรียมตัวจริงจังน่าจะประมาณช่วงปิดเทอมขึ้นม.6 จนถึงวันสอบเลย ตอนม.6 เป็นการเรียนออนไลน์ที่บ้านหมดเลยเพราะยังเป็นช่วงที่โควิดระบาดอยู่ ก็จะเรียนออนไลน์จนถึงประมาณบ่าย 3 เรียนเสร็จก็จะพักกินข้าว ดูหนัง อาบน้ำ จัดการชีวิตให้เรียบร้อย แล้วค่อยเริ่มอ่านหนังสือตอน 3 ทุ่มเป็นต้นไป พักนานใช่มั้ยคะ 555 พอเริ่มอ่านหนังสือเตรียมตัวมาสักพัก เราก็ได้ค้นพบว่าเป็นคนที่อ่านหนังสือตอนกลางคืนได้ดีกว่า เลยเลือกอ่านช่วงเวลานี้ค่ะ  อ่านหนังสือวันละ 3-4 ชั่วโมง แล้วแต่วัน แต่จะไม่บังคับ ฝืนตัวเอง ถ้าวันไหนเหนื่อยหรือรู้สึกท้อขึ้นมา ก็จะหยุด ไปหาอะไรที่ผ่อนคลายทำ แล้วค่อยกลับมาเริ่มอ่านใหม่ ส่วนใหญ่จะเน้นทำโจทย์เยอะมาก มีข้อสอบอะไรที่หาได้ก็จะทยอยทำจนหมด หนังสือเกี่ยวกับการสอบ PAT7.7 ในร้านหนังสือก็คือซื้อมาทำหมดทุกเล่ม 555 ข้อไหนที่ทำผิดก็จะกลับมาดูแล้วก็จดว่าผิดตรงไหน มีไวยากรณ์ตัวไหนใหม่ๆ ที่ไม่รู้จัก ก็จะจดใส่สมุด แล้วก็จดใส่กระดาษโน้ตอีกที แล้วก็แปะไว้ตรงโต๊ะอ่านหนังสือให้เห็นผ่านตาทุกวัน คำศัพท์ก็เหมือนกันค่ะ หาเอาจากในตัวแบบฝึกหัดที่ทำ คำไหนไม่รู้ก็จดแปะเอาไว้ แล้วก็ทำ flash card ไว้ด้วย อาจจะไม่ได้หยิบขึ้นมาอ่านทุกวัน ทุกเวลา แต่ก็พยายามหมั่นหยิบขึ้นมาท่อง ส่วนพาร์ทวัฒนธรรมก็มีเรียนที่โรงเรียน แล้วก็อ่านเองเยอะมากๆ ดูจากหนัง ซีรีส์ แล้วก็หนังสือเรียน สำหรับเราพาร์ทนี้เป็นพาร์ทที่ทำคะแนนได้เยอะมาก แต่ก็เป็นพารทที่ถ้ารู้ก็ตอบได้เลย ถ้าไม่รู้ก็ไม่รู้เลย ขึ้นอยู่กับว่าปีนั้นข้อสอบจะออกเรื่องที่เรารู้มั้ย 555 แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องพื้นฐาน เช่น มารยาท ภูมิประเทศ การเมือง ค่ะ

จุดสำคัญในการเก็บคะแนนภาษาเกาหลีคือไวยากรณ์ระดับต้น

ปัจจุบันไม่ได้เป็นข้อสอบ PAT แบบปีเราแล้ว เลยไม่แน่ใจว่าจะเหมือนกันทั้งหมดมั้ย แต่คิดว่าจุดที่สำคัญเลย คือ ไวยากรณ์ระดับต้นค่ะ ไวยากรณ์ในภาษาเกาหลีแต่ละตัวค่อนข้างมีรายละเอียดเยอะ มีกฎการใช้ที่แตกต่างกัน ถ้าทำความเข้าใจและจำวิธีการใช้ไวยากรณ์แต่ละตัวได้ก็จะช่วยในตอนทำข้อสอบได้มากขึ้นค่ะ แล้วก็หาแบบฝึกหัดหรือข้อสอบเก่าที่เป็นระดับประมาณเดียวกันกับตัวข้อสอบมาฝึกทำเยอะๆ ตอนแรกอาจจะยังมีข้อผิดเยอะ ได้คะแนนน้อยจนรู้สึกท้อมากๆ  แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะพัฒนาตัวเองไม่ได้ จนกว่าจะถึงวันสอบ ถ้าฝึกทำไปเรื่อยๆ หาจุดอ่อนของตัวเอง แล้วทำความเข้าใจให้มากขึ้นก็จะช่วยได้แน่นอนค่ะ

อยากเข้าสาขานี้วิชาภาษาเกาหลีสำคัญก็จริงแต่ไม่ต้องเรียนศิลป์-เกาหลีก็สอบติดได้

พี่มิลค์ สาขาเกาหลีธุรกิจ

อยากเข้าสาขานี้แน่นอนค่ะว่าวิชาภาษาเกาหลีสำคัญที่สุด เพราะว่าต้องใช้ทั้งตอนสอบเข้า (สำหรับรอบ 3) และเป็นสิ่งที่ต้องใช้เรียนมากที่สุดตลอดระยะเวลา 4 ปีด้วยค่ะ ถ้าไม่มีพื้นฐานมาเลย ระหว่างเรียนระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ ก็อาจจะทำให้รู้สึกเหนื่อยและยากมากๆ ได้ค่ะ เพราะว่าเป็นการเรื่องภาษาเกาหลีเชิงธุรกิจ ทำให้จะมีคำศัพท์เฉพาะทาง ไวยากรณ์ สถานการณ์ ระดับภาษา ที่ใช้ในแวดวงธุรกิจและบริษัทเกาหลีค่ะ จะไม่เหมือนกับภาษาที่ใช้ในชีวิตประจำวันสักเท่าไหร่ แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่เข้าสาขานี้จะต้องเป็นคนที่เรียนสายศิลป์-ภาษาเกาหลีมานะคะ เพื่อนเราหลายคนมาจากสายวิทย์-คณิต ศิลป์-คำนวณ ศิลป์-ภาษา (อื่น ๆ) ก็มีเยอะเลย การเตรียมตัวสำหรับเราคิดว่าถ้าไม่มีพื้นฐานภาษาเกาหลีมาก่อนหรือไม่ได้เรียนสายศิลป์-ภาษาเกาหลีมาจากที่โรงเรียนก็อาจจะเริ่มเตรียมพื้นฐานให้ตัวเองก่อน โดยการซื้อหนังสือมาอ่านก็ได้ หาดูวิดีโอสอนในแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ หรือเรียนพิเศษก็แล้วแต่ที่แต่ละคนสะดวกเลยค่ะ ส่วนคนที่มีพื้นฐานอยู่แล้วก็แนะนำให้ฝึกทำแบบฝึกหัด หรือหาหนังสือมาอ่านเรื่อยๆ เพื่อให้พื้นฐานแน่นขึ้น

ทักษะภาษาทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษก็สำคัญ

วิชาภาษาไทยและภาษาอังกฤษสำคัญมากๆ ค่ะ เพราะอยู่ในกลุ่มวิชาภาษาเหมือนกัน และภาษาก็เป็นส่วนสำคัญของการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพในโลกปัจจุบัน สำหรับชีวิตการเรียนในมหาวิทยาลัย ภาษาไทยและภาษาอังกฤษยังคงเป็นส่วนประกอบของวิชาอื่นนอกเหนือจากวิชาเอกที่เป็นภาษาเกาหลี วิชากลุ่มบริหารธุรกิจก็มีเนื้อหาและเอกสารประกอบการเรียนเป็นภาษาอังกฤษ และหลายๆ วิชาก็ยังมีการเขียนรายงานเป็นภาษาไทย เพราะฉะนั้นการรักษาทักษะทั้งสองภาษานี้ไว้ให้มั่นคงก็จะเป็นประโยชน์ทั้งในการเรียนที่มหาวิทยาลัย แล้วก็การทำงานในอนาคตค่ะ

ถ้าไม่เก่งภาษาเกาหลีจะเรียนสาขานี้ได้ไหม

สำหรับเราคิดว่าถ้าไม่เก่งภาษาเกาหลีก็สามารถเรียนคณะนี้ได้ค่ะ แต่ถ้าไม่มีพื้นฐานเลย อาจจะรู้สึกเหนื่อยนิดนึงเพราะว่าตั้งแต่ปี 1 เนื้อหาที่เรียนก็เป็นเชิงธุรกิจเป็นส่วนใหญ่แล้ว อาจจะต้องอ่านเสริมด้วยตัวเองเพิ่มเติมนอกห้องเรียนด้วยค่ะ

จบเกาหลีธุรกิจสามารถไปทำงานได้หลากหลาย

เนื่องจากยังไม่มีบัณฑิตที่จบไปจากสาขาของเราเลย ทำให้ยังไม่มีตัวอย่างที่ชัดเจนว่าจบไปแล้วส่วนใหญ่ไปประกอบอาชีพอะไรกัน แต่ว่าเพราะเป็นการเรียนทั้งภาษาและธุรกิจควบคู่กัน ทำให้ทางเลือกอาชีพกว้างมาก ๆ ค่ะ สามารถประกอบอาชีพเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและบริการ ผู้สอนภาษา ล่าม นักแปล เจ้าหน้าที่ในกระทรวงต่างประเทศ/สถานทูต ฯลฯ อัตราเงินเดือนก็กว้างเช่นกันค่ะ เพราะบางอาชีพสามารถรับงานเป็นฟรีแลนซ์ได้ เช่น ล่าม หรือบางอาชีพก็มีฐานเงินเดือนตามระดับความสามารถและอาจจะได้รับค่าภาษาเพิ่มได้ค่ะ ส่วนตัวเรายังไม่มีอาชีพที่ตั้งเป้าหมายไว้ แต่คิดว่าน่าจะยังอยู่ในแวดวงด้านภาษาค่ะ ตอนนี้ก็ยังอยู่ระหว่างการค้นหาตัวเอง แล้วก็ยังอยากลองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจในการเลือกอาชีพในอนาคตค่ะ 

อยากให้ฝากถึงน้อง ๆ ที่อยากเข้าคณะนี้ หน่อยค่ะ

สิ่งที่อยากฝากถึงน้องๆ ที่กำลังสนใจสาขานี้ คือ เราคิดว่าการจะตัดสินใจเลือกคณะที่จะเรียน มันคือเรื่องใหญ่เรื่องนึงในชีวิต แต่ละคนก็ต่างมีปัจจัยในการเลือกคณะที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นก็ขอให้ทบทวนให้ดี และสำหรับคนที่คิดว่าตัวเองยังไม่เก่งภาษาเกาหลีเลย จะทำได้มั้ย เราเชื่อว่าถึงจะไม่เก่ง แต่ก็สามารถพัฒนาตัวเองได้ค่ะ ถ้าอยากเก่งขึ้นก็ต้องให้เวลากับมัน หมั่นทบทวนบทเรียน หาความรู้นอกห้องเรียนเพื่อเสริมความรู้อยู่เสมอ แต่ที่สำคัญเลยคือแรงจูงใจที่เราอยากจะพัฒนาตัวเองค่ะ เพราะเราก็เป็นคนนึงที่ไม่เก่งเลยมาก่อนเหมือนกัน แต่เราเน้นการอ่านให้มากขึ้น พยายามหาช่องทางการเรียนรู้ให้มากขึ้น หาจุดแข็ง-จุดอ่อนของตัวเองให้เจอ และที่ขาดไม่ได้คือการเข้าใจในวิธีการเรียนรู้ของตัวเองค่ะ เราเป็นคนที่ต้องเขียนออกมาถึงจะจำได้ เวลาอยากจะจำอะไรให้ได้ เราก็จะเขียนออกมาซ้ำๆ จนกว่าจะจำได้ค่ะ และเราก็หวังว่าทุกคนจะหาวิธีที่เหมาะกับตัวเองเจอนะคะ เราอาจจะดูคนอื่นเป็นตัวอย่างและยินดีในความสำเร็จของเขาได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราทำตามเขาทุกอย่างแล้วจะสำเร็จเหมือนกัน เราเชื่อว่าทุกคนมีวิธีการเรียนรู้ที่แตกต่างกันค่ะ จนถึงตอนนี้เราก็ไม่รู้ว่าตัวเองเก่งมากพอรึยัง แต่การที่เราสามารถสื่อสารและมีพัฒนาการที่มากขึ้น สำหรับตัวเราเองแค่นั้นก็ถือว่าพอใจแล้วค่ะ เราเชื่อว่าไม่มีใครรู้ว่าเราพยายามมากแค่ไหน ได้มากเท่าตัวเราเองค่ะ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ทุกคนเสมอนะคะ 


อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว น้องๆ ที่เริ่มสนใจคณะมนุษยศาสตร์ สาขาเกาหลีธุรกิจ แต่ยังมีข้อสงสัย อยากจะปรึกษาพี่มิลค์ตัวต่อตัว สามารถมานัดวิดีโอคอลกับพี่มิลค์ได้เลย โดยน้องๆ สามารถจองคิวขอคำปรึกษาพี่มิลค์ได้ที่นี่ หรือค้นหาพี่คนอื่น ๆ ได้เลยที่ www.coachdd.app 

www.coachdd.app เว็บไซต์วิดีโอคอลปรึกษารุ่นพี่เรื่องเรียน-สอบเข้ามหาวิทยาลัย อยู่ที่ไหนก็คุยได้ ใช้เพียงมือถือ คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต น้องๆ สามารถถามคำถามได้ไม่อั้น ได้คำตอบชัดเจน เจาะลึกแบบเรียลไทม์ และที่สำคัญสามารถเลือกรุ่นพี่ที่สนใจ เลือกเวลาที่สะดวก และเลือกแพ็กเกจที่ต้องการได้เลย

ทั้งนี้น้องๆ ยังสามารถติดตามสาระความรู้และข่าวสารสำหรับการสอบได้ที่ Facebook : CoachDD by Dek-D  หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ฟรีที่ LINE Official Account: @coachdd

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular

Recent Comments